ทันหุ้น- BLA ปี 2564 เป้าหมายเบี้ยโต 2 หลัก หลังไม่มีภาระสำรองเพิ่ม หนุนผลงานสดใสกว่าปี 2563 เผยกลางปีเปิดตัว “ยูนิตลิงค์” ระบบรองรับพร้อม ทีมขายกว่า 1,400 คน และพันธมิตร 3B LINKสนับสนุนช่องทางเสนอขาย

ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยประกันภัยไว้ 2 หลัก ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าอุตสาหกรรมประกันชีวิตที่คาดว่าปีนี้คาดว่าเติบโตในในกรอบ-1% - 1%เนื่องจากบริษัทมีการขยายช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่เป็นยูนิตลิงก์ ในช่วงกลางปี 2564

ม.ล.จิรเศรษฐ คาดว่า ในปีนี้ BLA ไม่ต้องตั้งเงินสำรองตามกรมธรรม์ประกันเพิ่มขึ้น เนื่องจากปี 2563 มีการตั้งสำรองเพียงพอแล้ว และในช่วงที่ผ่านมา BLAก็ไม่ได้มีการขายแบบประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้นเพิ่มเติม ซึ่งภาพรวมน่าจะส่งผลให้งบของเราปีนี้ดีขึ้นกว่าปี 2563

ทั้งนี้ ประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้น มีความอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ยมาก ซึ่งความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อการตั้งเงินสำรองของบริษัทเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาBLA ได้ปรับพอร์ตงานรับประกันภัยใหม่โดยเน้นสินค้าคุ้มครองมากขึ้น ซึ่งเป็นแบบประกันที่ไม่มีภาระตั้งสำรองสูงแบบประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้น

ม.ล.จิรเศรษฐ กล่าวต่อไปว่าในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งอดีตพึ่งพิงทางแบงก์ถึง 80%เป้าหมายในปัจจุบันคือเพิ่มสัดส่วนในการขายผ่านช่อบงทางอื่นมากขึ้น เช่นช่องทางตัวแทน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 40% แบงก์ 40% และอื่นๆ เช่นนายหน้าโบรกเกอร์ และดิจิทัลราว 20%

“ปัจจุบันเนื่องจากนายหน้า ทั้งโบรกเกอร์ประกันวินาศภัย และโบรกเกอร์หลักทรัพย์ต่างก็มุ่งเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมให้มากขึ้น ซึ่งการเสนอขายแผนประกันชีวิตก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับโบรกเกอร์ และเราก็เห็นว่ามีหลายรายที่ได้รับใบอนุญาตในการขายประกันชีวิตได้แล้วซึ่งก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้เราเข้าไปขยายตลาด”

ในส่วนของช่องทางตัวแทน ในปี 2563 ที่ผ่านมา มีการติดขัดในเรื่องของการเพิ่มฐานตัวแทนใหม่เพราะไม่สามารถจัดกิจกรรมรับตัวแทนเพิ่มได้ จากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ดังกล่าวเป็นตัวผลักดันให้ลูกค้าทั้งรายใหม่และลูกค้าเดิมเข้ามาใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่ง ม.ล.จิรเศรษฐ บอกว่าในปีที่ผ่านมา ช่องทางนี้ขยายตัวถึง 70% จากปกติอยู่ที่ 30% ต่อปี

รายงานจากสมาคมประกันชีวิต ในปี 2563 BLA มีเบี้ยประกันชีวิตปีแรก (FYP) ที่ 5,616.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ถือเป็นการเติบโตสวนทางอุตสาหกรรมซึ่งติดลบ 6% ในส่วนของเบี้ยต่ออายุอยู่ที่ 28,194.96 ล้านบาท ลดลง 4.40% เบี้ยจ่ายครั้งเดียว 993.06 ล้านบาท ลดลง 47% และเบี้ยรับรวม 34,744.64 ลดลง 3% ซึ่งสอดคล้องกับภาพอุตสาหกรรมที่หดตัวลง

“ในปีที่ผ่านมาเบี้ยปีแรกของเราโต 26% แต่ในปีนี้ เราตั้งเป้าหมายว่าเบี้ยปีแรก เบี้ยต่ออายุ เบี้ยรับรวม จะเติบโตได้ 2 หลัก ซึ่งเราตั้งเป้าหมายไว้สูงเนื่องจากปีที่ผ่านมาสินค้าประกันชีวิตแบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล (Par product) ลูกค้าให้การการตอบรับดีมาก โดยเรามีการการันตีผลตอบแทนไว้ที่ 1% และหากบริหารจัดการและทำผลตอบได้ดี ผู้ซื้อประกันชีวิตก็ได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นตามไปด้วย”

ม.ล.จิรเศรษฐ กล่าวอีกว่า ในกลางปี 2564 BLA มีแผนจะออกสินค้ายูนิตลิงก์ ซึ่งปัจจุบันมีฝ่ายขายที่ได้รับใบอนุญาตขายผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้วกว่า 1,400 คน รวมถึงพันธมิตร “3B LINK” คือ กรุงเทพประกันภัย –ประกันชีวิต และบลจ.บัวหลวง ในการเข้ามาสนับสนุนการขายสินค้าระหว่างกัน

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุก่อนหน้านี้ว่า yield curve ที่ชันขึ้นจะเป็นบวกต่อหุ้นBLAในแง่ของรายได้จากการลงทุนที่จะปรับตัวสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการบันทึกตั้งสำรองพิเศษ (LAT reserve) ที่ลดลง และคาดกำไรสุทธิผ่านระดับต่ำสุดมาแล้ว มองว่ากำไรสุทธิของ BLA จะขยายตัวขึ้นในปี 2564-2565 หนุนจากเบี้ยปีแรก (FYP)ช่องทางแบงก์ ตัวแทน และอื่นๆ อย่างพันธมิตรกับกลุ่มจำนำทะเบียนรถ