ทันหุ้น – SNCตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เพิ่มขึ้น 25% จากงานรับจ้างผลิตเครื่องปรับอากาศทั้งจากเวียดนาม และจีน รวมถึงรายได้จากค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า พร้อมตั้งงบลงทุน 1,440 ล้านบาท ขยาย 4 โรงงาน อัพเทค โนโลยีการผลิต 4.0 ด้วยระบบ 5G หวังเข้ามาควบคุม และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

นายสมชาย งามกิจเจริญลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปี 2564 เพิ่มขึ้นราว 25% เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งปี 2563 ที่ 8,961 ล้านบาท หนุนจากงานรับจ้างผลิต (OEM) เป็นหลัก ทั้งผลิตเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีคำสั่งซื้อจากประเทศเวียดนาม และจีน, ตู้เก็บเครื่องมือ (Toolbox), เครื่องซักผ้า, ตู้เย็น, โทรทัศน์

ทั้งนี้ บริษัทได้นำเทคโนโลยี 5G บนคลื่นความถี่ 26 กิกะเฮิร์ทซ์ (GHz) มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตภายในโรงงาน อาทิ ควบคุมและสั่งการแขนกลหุ่นยนต์, รถ AGV (Automated Guided Vehicles) เพื่อขนส่งชิ้นส่วน – สายการผลิตภายในโรงงาน และระหว่างโรงงาน และใช้ติดตามระบบการผลิต-ไลน์เครื่องจักรต่างๆ นำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เป็นโรงงาน Smart Factory อย่างแท้จริง

เตรียมงบลงทุน1,440ล้านบ.

ขณะเดียวกันจากการลงทุนระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยตามโครงการ “ไทยแลนด์ 4.0” ของภาครัฐ บริษัทจะสามารถขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามโครงการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อช่วยลดต้นทุนทางภาษีให้กับบริษัท โดยได้ตั้งงบลงทุนทั้งสิ้น 1,440 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารโรงงาน 4 หลัง อาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า รวมวงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัญญาเช่าใช้ระยะยาว 5 ปี

สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจาก 2 ส่วน คือ 1.การเพิ่มทุนผ่านการขายหุ้นเพิ่มทุน 112.22 ล้านหุ้น ซึ่งได้ยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. คาดว่าจะสามารถจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไป (PO) ได้ภายในไตรมาส 2/2564 โดยจะกำหนดราคาให้เหมาะสมกับราคาหุ้นที่ซื้อ-ขาย ณ เวลานั้นๆ และอีกส่วนหนึ่งจะขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

“การลงทุนระบบเทคโนโลยี 4.0 ตามการส่งเสริมภาครัฐ ช่วยให้บริษัทประหยัดต้นทุนภาษี จากเดิมที่ปีนี้บริษัทมีแนวโน้มต้องชำระภาษีตามอัตราเต็ม เพราะบริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมและพลิกกลับมาทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอาคารโรงงาน และคลังสินค้านั้น ลูกค้ามีสัญญาเช่าแล้ว 5 ปีโดยลูกค้าจะเป็นผู้ลงไลน์การผลิตเองบนพื้นที่ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งจะใช้เป็นคลังสินค้า”

ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนฟื้น

นายสมชาย คาดการณ์รายได้ และคำสั่งซื้อในธุรกิจผลิตชิ้นส่วน อาทิ ท่อทองแดง โลหะแผ่น จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้เทียบเท่าใกล้เคียงกับปี 2562 (ก่อนวิกฤติโควิด-19) หนุนอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาออกรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทเริ่มได้รับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนระบบแอร์เข้ามา

นอกจากนี้ คำสั่งซื้อชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศก็เริ่มกลับมาบ้างแล้ว สำหรับสัดส่วนรายได้ปัจจุบันมาจากเครื่องปรับอากาศ 65%, Toolbox 11%, ยานยนต์ 9%, ตู้เย็น 5%, เครื่องทำน้ำอุ่น 4%, โทรทัศน์ 3%, และเครื่องซักผ้า 2%

“บริษัทเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสำหรับใช้ในแอร์รถยนต์ ซึ่งทั้งรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หรือรถยนต์ไฟฟ้าก็ใช้ระบบแอร์ภายในรถแบบเดียวกัน ดังนั้นบริษัทจึงได้รับอานิสงส์จากยอดผลิตรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย”