ทันหุ้น-โบรกเกอร์ 6 รายได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL หลังจากที่ได้ประกาศงบปี 2563 และงวดไตรมาส 4/63 ออกมาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ยังแนะนำซื้อ ขณะที่ราคาเป้าหมายของโบรกเกอร์แต่ละค่าย ยังสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน ดังนั้นจึงยังมี upside ที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก พร้อมประเมินว่าในระยะสั้นผลประกอบการอาจไม่สดใส เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่แนวโน้มระยะยาวยังดี 

บล.ทรีนีตี้ เป็นโบรกเกอร์ที่ให้ราคาเป้าหมาย CPALL สูงสุดใน 6 โบรกเกอร์ที่ได้รวบรวมมา โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 79 บาทต่อหุ้น พร้อมคำแนะนำซื้อ มองว่ามีโอกาสค่อยๆ ฟื้นตัวจากแนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย จากข่าววัคซีนที่กำลังส่งมาถึงไทยในวันพรุ่งนี้ คาดเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Domestic Consumer 

ด้านบล.เคจีไอ(ประเทศไทย) เป็นโบรกเกอร์ที่ให้ราคาเป้าหมายของ CPALL ต่ำสุดใน 6 รายดังกล่าว โดยให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 62 บาทต่อหุ้น พร้อมคำแนะนำ ถือ โดยคาดว่าCPALL จะถูกกระทบจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมา และจะได้รับผลกระทบด้านลบทางอ้อมจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล 

ส่วนโบรกเกอร์รายอื่นๆ ประกอบด้วย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่แนะนำซื้อลงทุนระยะยาว ให้ราคาเป้าหมายที่ 77.50 บาทต่อหุ้นนั้น  มองว่าในไตรมาส 1/64 ผลประกอบการของ CPALL และยอดขายต่อสาขาเดิมหรือ SSSG อาจยังไม่สดใส เพราะได้รับกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ในไตรมาส 2/64 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัว และในครึ่งหลังปี 2564กรณีการแพร่ระบาดคลี่คลาย และวัคซีนใช้ได้ผลจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มการเติบโต โดยได้ประมาณการกำไรปกติของปี 2564 อยู่ที่ 1.8 หมื่นล้าบาท เติบโต 12% 

ด้านบล.คิงส์ฟอร์ด ระบุว่าการฟื้นตัวของ CPALL เป็นไปช้ากว่าคาด โดยระยะสั้นมองว่าจะยังคงโดนกดดันทั้งจากโควิด-19 และภาระหนี้ที่เกิดจากดีล เทสโก้ อย่างไรก็ตามยังคงมุมมองเป็นบวกในระยะยาว จากการที่ได้รับสิทธิแฟรนไชส์เปิดร้าน 7-11 ในกัมพูชา และลาว เช่นเดียวกับการลงทุนในเทสโก้  โดยประมาณการกำไรปี 2564 และ 2565 อยู่ที่ 18,308 ล้านบาท และ 21,553 ล้านบาท ตามลำดับ โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 76 บาทต่อหุ้น

บล.เอเชีย พลัส มองว่า แม้กำไรปี 2564 ของ CPALL ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าภาพรวมกลุ่มและตลาด แต่เชื่อว่าสะท้อนในราคาหุ้นที่ Underperform กลุ่มลดลง 1.3% เทียบตลาดที่ปรับขึ้น 2.0% และกลุ่มที่ทรงตัวไปแล้ว ขณะที่ระยะกลาง เชื่อว่าจะกลับมาคาดหวังการเติบโตสูงกว่าคาเฉลี่ยในระยะกลาง-ยาว จากช่องทางเติบโตหลากหลาย ต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก ดังนั้นจึงแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 74 บาทต่อหุ้น

และสุดท้ายบล.โนมูระ พัฒนสิน มองในทิศทางเดียวกันว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/64 ของ CPALL จะยังไม่เด่น เพราะยังถูกฉุดจากมาตรการรัฐ (เราชนะ, เรารักกัน) แต่ประเมินเป็นปัจจัยลบชั่วคราว ขณะที่ความคาดหวังการกระจายวัคซีนที่จะมีมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/64 ขึ้นไป คาดว่า SSSG จะพลิกเป็นบวกอีกครั้ง ทำให้ SSSG ทั้งปีจะกลับมา +5% จาก -14.5% ในปี 2563 

โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2564 จะกลับมาฟื้นตัวอยู่ที่ 18,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่ราคาหุ้น laggard กว่ากลุ่ม ปัจจุบันซื้อขายเพียง PER-1 SD จึงแนะนำซื้อลงทุน ให้ราคาเป้าหมายที่ 68 บาทต่อหุ้น

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1