> SET > NER

23 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 19:22 น.

NER บุกอินเดียโกยยอด พร้อมลุยโรงไฟฟ้าชุมชน

ทันหุ้น-NER ผลงานไตรมาส 1/2564 ดีต่อเนื่อง รับอานิสงส์อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวทำดีมานด์พุ่ง หนุนรายได้ปีนี้ 2.2 หมื่นล้านบาท ปริมาณขาย 4.1 แสนตันต่อปี พร้อมบุกตลาดอินเดียมากขึ้นดันสัดส่วนรายได้เพิ่ม ราคายางมีแนวโน้มดีขึ้น เตรียมส่งบริษัทลูก เข้าประมูลโรงไฟฟ้าชุมชน มั่นใจคว้า PPA ย้ำมีความพร้อม ส่วนธุรกิจกัญชง อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ ชัดเจนไม่เกิน 2 เดือน โบรกส่องผลงานสูง2-3ปีข้างหน้า ราคาเป้าหมาย 7 บาท


นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2564 คาดว่าจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2563 โดยทั้งปีประเมินยอดขายยางพาราอยู่ที่ 410,000 ตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 460,000 ตัน โดยมองว่าความต้องการใช้ยางยังมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของบริษัทกว่า 80%นอกจากนี้อุตสาหกรรมถุงมือยางยังช่วยดึงซัพพลายในตลาดด้วย ทำให้ราคายางพารางมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องด้วย


*ยานยนต์ฟื้นหนุนงบ

ขณะที่รายได้ยังคงเป้าที่ 22,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 16,350 ล้านบาท โดยปีนี้จะขยายฐานลูกค้าจากประเทศอินเดียมากขึ้น ซึ่งเป็นประเทศที่มีโอกาสเติบโตอย่างมาก คาดว่าสัดส่วนรายได้จากจากอินเดียปีนี้จะเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันประมาณ 4% ทั้งนี้ปี 2564 สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะอยู่ที่ 40% และ 60% เป็นในประเทศ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในปีนี้คือเรื่องของวัคซีนที่จะทำให้ภาพรวมการใช้ยานยนต์ดีขึ้น รวมไปถึงกับติดตามตัวเลข PMI ด้วย ที่จะสะท้อนเรื่องของเศรษฐกิจกำลังซื้อ เป็นต้น


พร้อมกันนี้บริษัทยังมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ผ่านบริษัทย่อย หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้มีการอนุมัติให้เดินหน้าการประมูล ในวันที่ 22 มีนาคม 2564 นี้ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมอย่างมากทั้งในด้านเทคนิค และวัตถุดิบ เพราะมีการปลูกพืชพลังงานเองกว่า 1,200 ไร่ เพื่อรองรับ และยังมีการเจรจากับทางชุมชนไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะในการดำเนินโครงการดังกล่าวจะต้องใช้พืชพลังงานจากทางทางชุมชนราว 80% และมั่นใจว่าจะได้รับคัดเลือกและเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)


สำหรับธุรกิจกัญชงขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในกำดำเนินธุรกิจนี้ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมมีพื้นที่สำหรับการเพาะปลูก และยังมีการมองโอกาสที่จะทำโรงสกัดน้ำมันด้วย คาดว่าไม่เกิด 2 เดือนจะเห็นความชัดเจน ส่วนธุรกิจแผ่นปูรองนอนสัตว์นั้น บริษัทเลื่อนการขยายธุรกิจดังกล่าวออกไป 6 เดือน เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปพบลูกค้าได้ และการจะลงทุนในเครื่องจักรนั้นจะต้องใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท หากไม่สามารถจำหน่ายในต่างประเทศได้ บริษัทมองว่าอาจจะยังไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ดังนั้นจึงจะชะลอแผนลงทุนไปก่อน


*กำไรปี64-65ดีต่อเนื่อง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NER ว่า แนวโน้มราคายางยังเติบโต และทรงตัวในระดับสูง บริษัทคาดการณ์ว่าราคายางยังมีทิศทางขาขึ้นและคาดว่าไม่มี downside risk สาเหตุมาจาก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากโรคระบาด Covid-19 อีกทั้งยอดขายรถยนต์ที่เติบโตได้ในระดับสูงจากทั้งเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และนโยบายรถยนต์ EV ของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทคิดเป็น 70% ของรายได้รวม (รวมทั้งยอดขายในประเทศและส่งออก) รวมไปถึงราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง


บริษัทมองว่าราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 67 บาทต่อกิโลกรัม (+15% ) ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ Gross Margin ซึ่ที่คาดว่าจะอยู่ประมาณ 10-14% (ปี 2020 = 10.5%) อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างเปิดตลาดในอินเดียเพื่อลดการพึ่งพารายได้จากลูกค้าจีน และมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของอินเดียในระดับสูง ปัจจุบันบริษัทได้ลูกค้าในอินเดียมาเพิ่มแล้ว 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่ Top 5 ของอินเดีย โดยเซ็นสัญญา Long-term contract ไปแล้ว 1 ราย และอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณภาพสินค้าอีก 1 ราย ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-2565 เพิ่มขึ้น ประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 1,433 ล้านบาท (เติบโต 67% ) และกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 1,715 ล้านบาท ทั้งนี้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.00 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X