ทันหุ้น - SKE ปักเป้าปี 2564 รายได้แตะ 700 ล้านบาท เก็บเกี่ยวขายไฟ-ธุรกิจใหม่หนุน จัดสรรงบ 145 ล้านบาท ฮุบโรงกำจัดขยะ N15 เปิดช่องรับทรัพย์ คาดเริ่มรับรู้ได้ครึ่งหลังปี2564  แจงกรณีปตท.ส่งหนังสือให้หยุดผลิตNGV สระบุรีไม่กระทบ

นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE เปิดเผยว่า ปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ราว 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ราว533.66 ล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้การไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิ์ โดยปีนี้คาดรายได้ส่วนนี้ไว้อยู่ที่300 ล้านบาท ประกอบกับยังมีรายได้จากก๊าซธรรมชาติอัดแรงดันสูง(NGV) เข้ามาเพิ่มเติม รวมทั้งมีธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม

ฮุบโรงกำจัดขยะ

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการเข้าซื้อบริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด “N15” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายน2564 โดย N15 ประกอบธุรกิจบริหารจัดการของเสียหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย โดยการคัดแยกและแปรรูปขยะ เป็นเชื้อเพลิงทดแทน(RDF) ซึ่งสามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิงทดแทนสำหรับเตาเผาอุตสาหกรรมได้

ปัจจุบันN15 มีรายได้ทั้งจากการบริการคัดแยกและกำจัดขยะ รวมทั้งธุรกิจจัดจำหน่ายRDF โดยให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงปูนเป็นส่วนใหญ่ และมีศักยภาพที่จะเติบโตในธุรกิจการให้บริการแปรรูปและจำหน่ายขยะเชื้อเพลิงให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ  ทำให้บอร์ด SKE พิจารณาอนุมัติแล้วว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่SKE ซึ่งการเข้าซื้อ N15 รวมมูลค่าทั้งสิ้น145.00 ล้านบาท หากทุกอย่างสำเร็จน่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี2564 เป็นต้นไป

สำหรับแหล่งเงินทุนโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน186.00 ล้านหุ้น ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ0.80 บาท  คาดว่าจะได้เงินจากการเพิ่มทุนไม่เกิน148.80 ล้านบาท ในกรณีเงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เพียงพอSKE จะกู้ยืมจากสถาบันการเงินในประเทศ ซึ่งคาดว่าการกู้ยืมดังกล่าวไม่มีเงื่อนไขที่มีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นของSKE จากปัจจุบันที่บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ราว 2 เท่า

พร้อมกันนี้ ทางคณะกรรมการของSKE ยังมีมติอนุมัติให้ขายกิจการ บริษัท อาร์อี ไบโอฟูเอลส์ จำกัด “RBF” ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัด(CBG) เนื่องจากบริษัทได้ประเมินผลการดำเนินงานของRBF ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นRBF มีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทไม่เป็นตามที่วางไว้ จึงมีมติอนุมัติเห็นควรให้ขายหุ้นสามัญของRBF ให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม จาก SKE ถือหุ้น76.95% ให้กับบริษัท อาร์อี พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด ทั้งหมดเป็นจำนวน159,500 หุ้น ในราคาซื้อขายหุ้นละ134.16 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น21.40 ล้านบาท คาดในวันที่31 มีนาคม 2564 ซึ่วการขาย RBF ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เพราะช่วงที่ผ่านตัวเลขของธุรกิจดังกล่าวติดลบ

หยุดโรงNGVไม่กระทบ

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับทาง “ปตท.”แจ้งให้SKE หยุดการผลิตก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) ที่สถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน“PMS” พื้นที่บ้านนา-แก่งคอย จังหวัดสระบุรี (เป็นการชั่วคราว)ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม2564 เป็นต้นไปนั้นไม่มีกระทบกับบริษัท เพราะปัจจุบัน SKE ยังมีหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมในการอัดก๊าซให้ ปตท. ตลอดเวลา และ ปตท. ยังคงชำระค่าตอบแทนการลงทุน (เอพี) ให้กับSKE เป็นรายเดือนในอัตราที่กำหนดในสัญญาหรือคิดเป็นราว10 ล้านบาทต่อปี ส่วนโรงNGV ที่ปทุมธานีนั้นยังมีการเปิดดำเนินการตามปกติ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1