> เคล็ดลับลงทุน > CPALL

04 มีนาคม 2021 เวลา 06:20 น.

กำลังซื้อ กำลังฟื้นตัว

สัปดาห์ที่ผ่านมาประเด็น Bond Yield พุ่งกลายเป็นสิ่งที่ตลาดให้ความสนใจกันอย่างล้มหลาม ในความเป็นจริงเรื่องการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของ Bond Yield นั่นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ผมเองก็มีการเขียนไปก่อนล่วงหน้า 2 สัปดาห์ ในหัวข้อ “Reflation โลกต้องยอมสยบเมื่อเงินเฟ้อเร่งตัว”ก่อนที่ตาดจะมาสนใจกันจริงจังในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา


ล่าสุดกระแสการขึ้นของ Bond yield ดูเหมือนจะลดความร้อนแรงลง หลังบรรดาเทรดเดอร์ทยอยปิดสถานะ Short Bond กันเพื่อรอดูท่าทีของประธาน Fed เจดรม พาวเวล ซึ่งมีกำหนดการให้สัมภาษณ์สภาวะเศรษฐกิจกับ Wall Street Journal ในวันพฤหัสบดีที่ 4 มี.ค.64 โดยมีความคาดหวังว่าประธาน Fed จะส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพิ่มเติม ซึ่งผมมองว่าเป็นจุดที่ควรต้องระวัง เพราะหากเจโรม พาวเวล เลือกที่จะไม่ส่งสัญญาณใดๆ และยืนยันว่าเครื่องมือที่ใช้อยู่ปัจจุบันเพียงพอแล้ว ในเมื่อขาใหญ่ไม่ส่งสัญญาณซื้อมากไปกว่าเดิมบรรดาเทรดเดอร์ก็จะหันกลับมาลุย Short Bond กันอีกรอบและแน่นอนว่า Bond yield ก็จะพุ่งขึ้นอีกครั้งเช่นกัน


ท่าทีของ Fed เป็นสิ่งที่ตลาดกำลังให้ความสนใจกันอย่างหนัก จากเดิมที่เคยเชื่อว่าการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของ Fed จะชนะทุกสิ่งและเป็นทุกอย่างของสินทรัพย์เสี่ยง แต่ตอนนี้ดูเหมือนความเชื่อนั้นจะเริ่มสั่นคลอนและไม่ง่ายเหมือนอย่างที่ใครๆคิดกัน เมื่อค่า forward Inflation Expectation (ค่าเฉลี่ยคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาว) และ Break-even Inflation 10 year มีระดับต่ำกว่า Break-even Inflation 5 year สะท้อนว่าตลาดมอง Fed จะใช้ QE และดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีกแค่ช่วงระยะสั้นเท่านั้น ในระยะยาวตลาดเริ่มมีความกังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอและเงินเฟ้อจะลงต่ำอีกครั้ง


ภาพของ Bond Yield และ Real Yield ที่มีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นอีกรอบ และ Break-even Inflation 5 year ที่เตรียมขึ้นกันอีก คาดว่าจะมีเพดานจำกัด เพราะจะเกิดการติดกับดัก ความคาดหวัง Stimulus Package ที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของสภาคองเกรส ซึ่งคาดว่าสภาฯจะมีการอนุมัติวงเงินระหว่าง 1.5-1.9 ล้านล้านเหรียญภายในปลายเดือน มี.ค.64 ซึ่งวงเงินดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นรายการใช้จ่ายทีเดียวจบ เงินเฟ้อที่ตลาดคาดว่าจะเร่งตัวจึงจะ peak สุดแค่ในไตรมาส 2 ของปี


แรงกดดันจาก Bond yield ที่จะมากระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก กลุ่มหุ้นที่มี Valuation สูงจะมีความอ่อนไหวต่อการพุ่งขึ้นของ Bond yield มากที่สุด ในยามที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจะปรับเพิ่มขึ้น กดดันต่อการประเมินมูลค่าพื้นฐาน ทั้งในส่วนของการประเมิน P/E การใช้วิธี dividend discount model และ discount cashflow model อย่างไรก็ตามภายใต้กระแสการขึ้นของ Bond yield ก็มีกลุ่มที่ได้ประโยชน์ อย่างกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคารฯ การเงิน และกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค


เมื่อพูดถึงกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคใน SET Index นั้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่นัก เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเรื่อง covid-19 หนักหนาสาหัสที่สุด ดูได้จากผลประกอบการปี 2563 กลุ่มค้าปลีกหดตัวรุนแรงกว่า 21% กำลังซื้อในประเทศหดหาย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกต่ำ และดูเหมือนว่าจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเร็วๆวันนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตลาดมองข้ามมาตลอดตอนนี้กลับดูน่าสนใจมากขึ้น เมื่อสัญญาณกำลังซื้อเล็กๆเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว นั่นคือรายได้ภาคเกษตรที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมา 6 เดือนติดต่อกัน แม้ว่าเดือน ม.ค.64 จะเห็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอลงบ้าง แต่แนวโน้มหลักคือฟื้นตัวมาอย่างชัดเจน ยังไม่นับสัญญาณทางเศรษฐกิจอื่นๆที่เริ่มสะท้อนถึงกำลังซื้อที่ดีขึ้น ทั้งหมดน่าจะส่งผลโดยตรงต่อกลุ่มค้าปลีก ผลประกอบการในปี 2564 มีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำในปี 2563 สูง ซึ่งในกลุ่มค้าปลีก หุ้นที่ยังมี Valuation ที่ต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับศักยภาพการแข่งขันที่แข็งแกร่ง ที่ผมคิดว่าน่าสนใจที่สุด คือ CPALL HMPRO

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X