ทันหุ้น - TVD ปักเป้าอัพสัดส่วนยอดขายออนไลน์โต 50% จากปัจจุบัน 8% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า พร้อมจับมือพาร์ทเนอร์พัฒนาแพลตฟอร์ม-เว็บไซต์ เพิ่มช่องทางทำเงิน รุกขยายฐานลูกค้าใหม่ หวังปั๊มรายได้วิ่งชน 4 พันล้านบาท เล็งดันบริษัทในเครือ ABPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2566

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์ เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 4,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 3,736 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่บริษัทได้วางไว้ โดยจะขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ ‘Harmonized Channel’ ใช้ศักยภาพช่องทางการขายต่างๆ ของบริษัท ได้แก่ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง คอลล์เซ็นเตอร์ ร้านค้าปลีก TVD Shop และอีคอมเมิร์ซ เพื่อผลักดันการเพิ่มยอดขายจากช่องทางออนไลน์

**เพิ่มสัดส่วนออนไลน์

ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ในปีนี้เป็น 15% จากปัจจุบัน 8% และคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า หรือราวปี 2566 จะมีสัดส่วนยอดขายดังกล่าวเพิ่มเป็น 50% ซึ่งไตรมาส 1-2 ของปีนี้ จะเพิ่มยอดขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม Social Commerce ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น TikTok เป็นต้น พร้อมทั้งพัฒนาระบบเว็บไซต์ (www.tvdirect.tv) และแอปพลิเคชัน TVD  ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงต้นไตรมาส 3/2564 เพื่อให้สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โดยบริษัทได้จับมือกับพาร์ทเนอร์คือ บริษัท โมโม่ดอทคอม จำกัด หรือ ‪MOMO ผู้นำธุรกิจโฮมชอปปิ้งและอีคอมเมิร์ซ รายใหญ่จากประเทศไต้หวัน นำเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ในการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น

ช่องทางขายสินเค้า

นอกจากนี้ยังมีช่องทางการขายอื่นๆ ของบริษัท จากปัจจุบันมีทีวีดาวเทียมทั้งหมด 28 ช่อง โดยวางตำแหน่งทางการตลาดของแต่ละช่องใหม่เป็น 6 กลุ่ม 1.กลุ่มสินค้าราคาย่อมเยา 2.กลุ่มสินค้าจับตลาดกลาง-บน 3.กลุ่มสินค้าฟิตเนสเพื่อออกกำลังกาย 4.กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 5.กลุ่มสินค้าสำหรับตลาดแมสในราคาเข้าถึงได้เสมือนยกธุรกิจค้าปลีกมาอยู่ในทีวีโฮมช้อปปิ้ง และ 6.กลุ่มสินค้าแบรนด์เนม และเตรียมเพิ่มคอลล์เซ็นเตอร์เป็น 500 ราย จากสิ้นปี 2563 อยู่ที่  300 ราย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่กว่า 10.1 ล้านราย และขยายฐานลูกค้าใหม่

พร้อมทั้งบริษัทยังตั้งเป้าเพิ่มสินค้าเป็น 40,000 รายการ (SKU) ในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 6,000-7,000 รายการ(SKU) เพื่อรองรับการขายสินค้าบนออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม โดยบริษัทวางงบลงทุนรวมปีนี้ไว้ราว 30 ล้านบาท โดย 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบดาต้าเซ็นเตอร์ และใช้ในส่วนของ Call Center ส่วนอีก 10 ล้านบาทจะใช้ในบริษัทย่อย บริษัท เอบีพีโอ จำกัด (ABPO)

*ส่งบ.ย่อยเข้าตลาด

นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะนำ บริษัท เอบีพีโอ จำกัด (ABPO) ในเครือ TVD ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากการปรับโครงสร้างและควบรวมธุรกิจ B2B (Business to Business) โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 1,040 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาท และได้วางยุทธศาสตร์ทรานส์ฟอร์มองค์กร สู่การเป็นบริษัท Tech Company จากปัจจุบันที่เป็นผู้ดำเนินธุรกิจขายสินค้าและให้บริการที่หลากหลาย เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ABPO มีแผนเข้าลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ Tech Company และได้ลงทุน ใน BLOCKFINT บริษัท FINTECH สตาร์ทอัพ และ Blockchain Technology ผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชันสำหรับการสร้าง Neo Banking (ธนาคารดิจิทัลในโลกออนไลน์) และ บริษัท EAT LAB ผู้พัฒนาระบบ AI Core Tech เพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค การพัฒนาโปรโมชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริษัทยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนมากขึ้น

โดยมีการเจรจากับธุรกิจสตาร์อัพอยู่ 5-6 ราย แต่คาดว่าปีนี้จะปิดดีลได้ 2-3 ราย ได้แก่ อินชัวร์รัน, ฟินเทค, ฟู้ดเทค, มาร์เก็ตติ้ง เทคโนโลยี และเฮลแคร์ เป็นต้น โดยการลงทุนในสตาร์อัพ เบื้องต้นจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนไม่มากประมาณ 1-3% พร้อมทั้งมีเป้าหมายในอนาคตที่จะนำ ABPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในปี 2566

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1