> SET > BAFS

04 มีนาคม 2021 เวลา 10:38 น.

BAFS ทยอยฟื้นกับภาคท่องเที่ยว เติบโตจากธุรกิจใหม่

ทันหุ้น -บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) สแกน BAFS บริษัทรายงานขาดทุนสุทธิ 374 ล้านบาทในปี 63 (จากกำไรสุทธิ 940 ล้านบาทในปี 62) เพราะธุรกิจบริการเติมน้ำมันอากาศยานถูกกระทบจากวิกฤตโควิด-19 อย่างรุนแรง โดยรายได้รวมปี 63 หดตัว -52%YoY เป็น 1.88 พันล้านบาท บริษัทพยายามลดต้นทุนบริการและค่าใช้จ่ายดำเนินงานลงราว -16%YoY แต่ก็ยังขาดทุนสุทธิจากรายได้ที่หายไปมาก


RATCH ชนะประมูลซื้อหุ้น BAFS จำนวน 98.98 ล้านหุ้น หรือ 15.53% จาก THAI ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 27.40 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2.71 พันล้านบาท โดยทำสัญญาไปเมื่อ 29 ธ.ค.63 และจ่ายเงิน & โอนหุ้นครบถ้วนแล้วเมื่อ 19 ม.ค.64ภายหลังการโอนหุ้นให้กับ RATCH แล้ว THAI ยังคงถือหุ้นใน BAFS สัดส่วน 7.06%


ทั้งนี้ บริษัทเปิดแผนธุรกิจปี 64-67 โดยมุ่งพัฒนา 3 ธุรกิจ และคาดว่าปี 67 จะมีรายได้จากธุรกิจบริการน้ำมันอากาศยาน 43%, รายได้จากธุรกิจอื่นๆ 57% ทั้งนี้บริษัทต้องการลดการพึ่งพิงรายได้จากบริการเติมน้ำมันอากาศยานลง และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจให้มากขึ้น 


ด้านธุรกิจหลัก - มีโครงการที่จะลงทุนขยายการให้บริการน้ำมันอากาศยานไปยังท่าอากาศยานในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ ทั้งลงทุนเองและร่วมทุนกับพันธมิตร บริษัทย่อย คือ ไทยเชื้อเพลิงการบิน (TARCO) ซึ่งให้บริการระบบส่งน้ำมันอากาศยายผ่านท่อง Hydrant ที่สุวรรณภูมิก็พร้อมส่งน้ำมันใน 1Q64 


ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริการเติมน้ำมันอากาศยาน  บริษัทวางแผนขยายธุรกิจนี้ เช่น การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟแวร์, พัฒนานวัตกรรม & Digital Solution และ Platform บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินและท่าอากาศยาน เช่น Blockchain, AI เป็นต้น และพัฒนาหุ่นยนต์เติมน้ำมันอากาศยานเพื่อติดตั้งกับรถเติมน้ำมันอากาศยาน ซึ่งมีการประกอบและจัดจำหน่ายรถเติมน้ำมันอากาศยานให้กับประเทศเมียนมาและลาว นอกจากนั้นได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของยุโรปในการพัฒนารถเติมน้ำมันอากาศยานไฟฟ้า (Electronic Vehicle- EV) และการเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น วาล์วในงานด้านอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมปิโตรเลียม


ธุรกิจพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อม - บริษัทมีแผนลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน (Renewable energy) และธุรกิจรีไซเคิล (Recycling business) โดยการซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ จำนวน 7 แห่ง กำลังผลิตรวม 36.4 เมกะวัตต์ มูลค่าประมาณ 1,704.67 ล้านบาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทโดยทันทีในปี 2564 และมีแผนที่จะซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศในอนาคต


ฝ่ายวิจัย แนะนำน่าสนใจลงทุน คาดว่าผลประกอบการปี 64F จะทยอยดีขึ้นและจะกลับไประดับก่อนโควิด-19 ได้ในปี 66 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเดินทางภายในประเทศและข้ามประเทศเป็นปกติแล้ว ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน 26.50 บาท ต่ำกว่าราคาก่อนมีโควิดประมาณ 30%, ต่ำกว่าราคาที่ RATCH ประมูลซื้อไปที่ 27.40 บาทอยู่ 3.3% และการที่บริษัทขยายธุรกิจอื่นๆ ที่เป็น New & Next Normal ก็ทำให้มีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นในระยะยาว ยังไม่ได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึก แต่เล็งเห็นว่า Story ของบริษัทมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนยาว


การวิเคราะห์ทางเทคนิค แนะนำซื้อตามด้วยค่าบวก/หรืออ่อนแต่ไม่หลุด 25 บาท แนวต้านระยะสั้น 27-28, 30 บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X