ทันหุ้น – TU ศึกษาทำโปรดักส์ผสมกัญชง ทดลองทำทูน่ากระป๋องในน้ำมันกัญชงที่มีโอเมก้า 3 และโปรตีนจากกัญชง หวังต่อยอดธุรกิจอาหารเพิ่ม พร้อมเดินหน้าทุ่มงบ 6.5 พันล้านบาท ลุยผลิตโปรตีนทางเลือก คอลลาเจน อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานปักเป้าปี 2564 รายได้ทะยาน 5% จากปีก่อน หวัง 5 ปีรายได้แตะ1.6 แสนล้านบาท

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการนำส่วนผสมกัญชงมาผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น อาหารเสริม อาหารกระป๋อง โดยได้มีการทดลองนำไปทำเป็นทูน่ากระป๋องในน้ำมันกัญชงที่มีโอเมก้า 3 และโปรตีนจากกัญชง และอื่นๆ เพื่อขยายไลน์สินค้าเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอความชัดเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะมีการออกสินค้าในกลุ่มกัญชงต่อไป

ทั้งนี้ เบื้องต้นทาง TU คงจะไม่ปลูกกัญชงด้วยตนเอง แต่จะเป็นเพียงการนำผลผลิตจากกัญชงมา จากผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตเพื่อผสมในสินค้าประเภทอาหารของบริษัท เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง

*ทุ่มงบ 6.5 พันล.อัพแกร่ง

ขณะที่ในปี 2564 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 6.5 พันล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนโครงการผลิตโปรตีนทางเลือกและคอลลาเจนในประเทศประมาณ 800 ล้านบาท, โรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน 1 พันล้านบาท, ห้องเย็นในกาน่า 330 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรองรับการปรับปรุงธุรกิจในส่วนต่างๆ หวังเสริมศักยภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปี (2564-2568) เฉลี่ยปีละ 5% จากรายได้ปี 2562อยู่ที่ 1.32 แสนล้านบาท เพิ่มเป็น 1.6 แสนล้านบาท ภายในปี 2568 เน้นให้ความสำคัญกับกำไรสุทธิมากกว่ารายได้ โดยในปี 2564 นี้ตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17.5% พร้อมเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจใหม่ ทั้งผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือก และธุรกิจส่วนประกอบอาหาร (Ingredients) ที่จะมีมากกว่า 15% ขณะที่สัดส่วนรายได้จะอยู่ที่กว่า 10% ของรายได้รวม

*ดันบริษัทลูก TFM เข้าตลาด

นอกจากนี้ หลังจากที่บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านช่องทางจำหน่าย ได้แก่ การร่วมมือกับบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ร่วมทุนผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมที่ IP มีความเข้มแข็งด้านช่องทางขายผ่านโรงพยาบาล คาดว่าจะเริ่มผลิตในไตรมาส 2/2564, การร่วมทุนกับกลุ่มไทยเบฟ ในการผลิตและจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งไทยเบฟมีความเข้มแข็งช่องทางการขายเช่นกัน คาดจะเริ่มในช่วงครึ่งหลังปี 2564

ส่วนแผนการนำหุ้นของบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 109.30 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 90 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเดิมจำนวนไม่เกิน 19.3 ล้านหุ้น หลังได้มีการยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา คาดได้เห็นความชัดเจนช่วงปลายปีนี้

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1