> SET > HFT

15 มีนาคม 2021 เวลา 07:30 น.

HFTชูกัญชงระบบปิด โตพุ่งตามดีแคทลอน

ทันหุ้น- HFT เดินหน้าปลูกกัญชงแบบอาคารปิด ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู 20 ไร่ ประเมินเงินลงทุน 100 ล้านบาท ชี้ใช้ความรู้อุตสาหกรรมปลูกแนวตั้งดันผลผลิตสูง ชูแนวคิดโอกาสลงทุนธุรกิจอนาคตมีเพียบ เหตุผู้ถือหุ้นไต้หวันมีดีลเทสล่า ชี้ยักษ์กีฬา ดีแคทลอนขยายสาขาส่งผลดีต่อบริษัทเหตุสั่งสินค้า 80% ขณะที่ดีมานด์ยางจักรยานพุ่ง เซฟตี้สต๊อกยุโรปหด ปีนี้ผลงานพุ่งอีก โบรกชี้โครงสร้างธุรกิจดีราคาสุดต่ำเพราะคนไม่รู้ แนะวิธีคำนวณ


นาย จวง จื้อ เหยา รองประธานกรรมการ บริษัท ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ HFT ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถขนส่งขนาดเล็ก เปิดเผยว่า บริษัทได้ศึกษาเพื่อแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจกัญชง บนพื้นที่ดิน 20 ไร่ ในนิคมอุตสหากรรมบางปู โดยจะเน้นการเพาะปลูกในพื้นที่อาคารแบบปิด และเป็นการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ เนื่องจากสามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ ทั้งน้ำ อาหาร ความชื้น แสงไฟ ซึ่งทำให้ได้ผลผลิต และ CBD ที่ดี โดยได้จะนำแนวคิดของอุตสาหกรรมที่เน้นผลผลิตและการลดต้นทุนมาใช้ ผ่านการปลูกกัญชงแบบแนวตั้ง (แบบคอนโด) และให้ไฟรอบด้านอย่างทั่วถึงทุกช่อ ซึ่งจะทำให้ได้ผลผลิตมากกว่าการปลูกแบบแนวนอน และสามารถที่จะมีโอกาสปลูกได้ 3-4ครั้งต่อปี โดยไม่ต้องพึ่งพาฤดูกาล ซึ่งปกติกัญชงจะออกช่อดอกที่มีสาร CBD ในช่วงหน้าหนาวที่มีแสงต่ำกว่า 12-14 ชั่วโมง


ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเดินหน้าที่จะขออนุญาตในการปลูก ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนไปบ้างแล้ว และกำลังเตรียมการขอใบอนุญาตปลูกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยประเมินเงินลงทุนธุรกิจนี้จำนวน 100 ล้านบาท


นอกจากนี้บริษัทยังมีการศึกษาการแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอื่นๆ โดยเห็นโอกาสทั้งแพลทฟอร์มที่ชาร์จมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งในไต้หวัน มีการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็ว 120 กม./ชม. ค่อนข้างมาก ซึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นต้องการยางที่ลดแรงเสียดทานค่อนข้างมากเป็นโอกาสของบริษัท


รวมถึงโอกาสที่จะดีลธุรกิจกับยักษ์ใหญ่ระดับโลกหลายราย เนื่องจาก ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ HFT คือ นาย กั๋ว หรง เซิ่น มีกลุ่มบริษัทในไต้หวันหลายบริษัทที่ดีลกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลกค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งก็คือกลุ่มบริษัท HOTA ซึ่งได้ผลิตและขายเกียร์กระปุกให้กับ บริษัทเทสล่า นอกจากนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังมี ธุรกิจแม็ก แชสซี (โครงสร้างรถ) ยังมีบริษัทไบโอเทคที่ไต้หวัน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดียวกัน มีผลิตภัณฑ์กลูโคซามีนแก้ข้อเข่าเสื่อม


"ในมุมมอง เราไม่ได้แค่เป็นบริษัทในอุตสหากรรมล้อยางเท่านั้น ซึ่งในธุรกิจนี้จะทำกำไร สร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัท มีการเติบโตที่ดีอยู่แล้ว แต่วิสัยทัศน์เราต้องการลงทุนไปสู่ธุรกิจโลกใหม่ ซึ่งมีเทคโนโลยี นักลงทุนจะให้ค่าในส่วนนี้มากกว่า"


@ดีมานด์ยางจักรยานพุ่ง


สำหรับธุรกิจยางล้อจักรยานนั้น ยังมีแนวโน้มการเติบโตค่อนข้างมาก ตามการเติบโตการขยายห้างอุปกรณ์กีฬาที่ทันสมัย อย่าง "ดีแคทลอน" ที่ปัจจุบันกำลังเร่งขยายการเติบโต โดยปัจจุบันมีประมาณ 10สาขาในประเทศไทย ล่าสุดเตรียมที่จะเปิดสาขาพระราม 2ซึ่งจะเป็นห้างขายอุปกรณ์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดของ "ดีแคทลอน" นอกจากนี้ "ดีแคทลอน" ยังมีการขยายสาขาไปทั่วโลก ประเมินการเติบโตปีละ 15%ดังนั้นในฐานะที่บริษัทมีสัดส่วนการส่งสินค้าล้อจักรยาน 80%ก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย


ส่วนสถานการณ์ความต้องการยางล้อรถจักรยานตอนนี้ยังสูงมากโดยเฉพาะประเทศยุโรป การส่งยางล้อจักรยานถูกขายออกหมด ทำให้ประเทศในยุโรปมีเซฟตี้สต็อกที่ต่ำ ดังนั้นจึงประเมินว่าความต้องการจะยังสูงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดคำสั่งซื้อล่วงหน้าไปถึง 12เดือนแล้ว ยังไม่ได้กำหนดราคา


ปัจจุบันบริษัทได้ใช้กำลังการผลิตสูงถึง 95%แต่ยังสามารถขยายได้อีกจากการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม ทั้งการปรับลดเวลาการผลิต การรับออเดอร์ขนาดใหญ่จาก 300ชั่วโมง เป็น 400 ชั่วโมง ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนบล็อกบ่อย ตลอดจนการเสริมเครื่องจักรเข้ามา ซึ่งทำให้กำลังการผลิตสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก 10%ขณะเดียวกันจากการผลิตมากขึ้นทำให้บริษัทประหยัดต้นทุนต่อขนาดลง 3-4%ซึ่งนับว่าสูง


นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับขึ้นราคาขายยางล้อจักรยานประมาณ 8% ยางล้อมอเตอร์ไซค์ 7% ตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่เป็นออเดอร์จากปีที่ผ่านมา ซึ่งจะรับรู้ผลดีจากการขึ้นราคาได้เต็มในช่วงไตรมาส 2พร้อมกันนี้บริษัทยังมีการล็อคราคายางแท่ง STR ไว้ในระดับต่ำแล้ว 5-6 เดือน ดังนั้นประเมินทิศทางของบริษัทในปีนี้จะเติบโตได้ต่อเนื่อง และทำสถิติสูงสุดได้ โดยไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ทำผลงานได้สูงสุด


@ ราคาหุ้นสุดถูก


ด้านนายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการ Equity Derivative บริษัท ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ประเมินว่า HFT นับเป็นหุ้นที่มีราคาต่ำเพียง 8 เท่า ทั้งๆ ที่ บริษัทที่มีโครงสร้างในการทำธุริกจที่ไม่ใช่สินค้าโภคภัณฑ์ แต่เป็นรีเทล ทั้งการขายสินค้าให้กับรีเทลระดับโลกอย่าง ดีแคทลอน และยังมีการกระจายไปหลายประเทศ จึงมีความมั่นคงมากกว่าสินค้าอุตสาหกรรม สามารถที่จะปรับราคาสินค้าได้ ซึ่งนักลงทุนอาจจะยังไม่รู้จักจึงให้ค่าต่ำ เชื่อว่าหากมีคนรู้จักมากขึ้นราคาจะสะท้อนขึ้นมา ขณะที่ปันผลในระดับ 5% ถือว่าสูง โดยนักลงทุนอาจจะสามารถที่จะใช้วิธีการคำนวณพีอีอุตสาหกรรมในระดับ 12-15 เท่าได้ ซึ่งจากกำไรต่อหุ้นที่ปีที่ผ่านมาในระดับ 0.63 บาท จะได้ราคาในราว 7.5 บาทได้


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X