> SET > JMART

22 มีนาคม 2021 เวลา 10:14 น.

"JMART" 'เคจีไอ' แนะซื้อ คาดเติบโตแบบก้าวกระโดด

ทันหุ้น - บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เริ่มบทวิเคราะห์ครั้งแรก JMART ด้วยคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 51 บาท JMART ทำธุรกิจเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (holding company) โดยกำไร 60% มาจาก JMT, 15% มาจาก SINGER และที่เหลือมาจาก J-Mobile, Jas Asset และ KBJ ทั้งนี้ JMART เพิ่งจะปรับโครงสร้างการลงทุน โดยได้ผนึกพันธมิตรกับ KookminBank (ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี) และ TIS Intec (ผู้พัฒนาระบบที่ใหญ่เป็นอันดับสี่จากญี่ปุ่น) ซึ่งจะทำให้งบดุลของ JMART แข็งแกร่งขึ้น และสัดส่วน D/E ลดลง ในขณะที่ทำให้สามารถเข้าถึง และ transform ไปสู่การทำ digitalization ได้เร็วขึ้น และยังทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าของพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตได้อีกด้วย ทั้งนี้ กำไรจาก JMT และ SINGER เป็นแบบ recurring ในขณะที่กำไรของบริษัทลูกอื่น ๆ น่าจะเร่งตัวขึ้นในปี 2564-65 ซึ่งจะหนุนให้กำไรของ JMART แข็งแกร่งยิ่งขึ้น


75% ของกำไรมาจาก JMT-SINGER 

JMART เป็นโฮลดิ้งที่กำไรของบริษัทมาจากการถือหุ้นในบริษัทลูก ซึ่งแนวโน้มการเติบโตกำไรจะมาจาก  กำไรที่แข็งแกร่งจาก JMT (ถือหุ้นอยู่ 52.5%) และ SINGER (บริษัทถือหุ้นอยู่ 32.5%) ซึ่งกำไรจากทั้ง 2 บริษัทคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75% ของกำไรของ JMART ในขณะเดียวกัน ผลประกอบการของบริษัทหลักอื่น ๆ ที่ JMART ถือหุ้นอยู่ก็คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากฐานกำไรที่ต่ำ และต้นทุนที่ลดลง โดยเราคาดว่ารายได้ของ Jaymart Mobile (บริษัทถือหุ้น 100%) ในปี 2564-65 จะโตปีละ 25% และสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/รายได้จะลดลงเหลือ 12% (จาก 13-14% ในอดีต)  


ผนึกพันธบัตรเพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 65 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ JMART เพิ่งปรับโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัทลูกโดยการดึงพันธมิตรที่แข็งมาช่วย 1.) ขายหุ้นใน 49% ใน J-Fintech ให้กับ Kookminbank (ธนาคารสำหรับผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี) เพื่อขยายสินเชื่อผู้บริโภคผ่านระบบดิจิตอลและการทำเชื่อมและขายสินค้าภายใต้ฐานในกลุ่ม (cross-selling) 2.) ขายหุ้น 16% ใน J-Venture ให้กับพันธมิตรใหม่ TIS Intec (ผู้พัฒนาระบบ IT ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของญี่ปุ่น และเป็นผู้ถือหุ้นของ Grab Financial) พันธมิตรที่เข้ามาจะช่วยให้บริษัทปรับตัวเองไปสู่ดิจิตอลแพลตฟอร์มเร็วขึ้น และทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าของ TIS Intec ซึ่งถือหุ้นใน Grab Financialได้ 


… D/E ลดลงเหลือ <2x 

การขายหุ้น J-Fintech (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น KBJ แล้ว) จะทำให้ภาระหนี้ของ JMART ลดลงประมาณ 1.8 พันล้านบาท และทำให้มีกำไรจากการขายหุ้นประมาณ 100 ล้านบาทบันทึกใน 1Q64 ในขณะที่การขายหุ้น 16% ใน J-Venture จะทำให้เงินสดในมือของ JMART เพิ่มขึ้นประมาณ 200 ล้านบาท และจะมีการบันทึกกำไรที่ยังไม่รับรู้จากมูลค่าการลงทุนแบบบันทึกตามราคาตลาด(mark-to-market) ผ่านส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ 800 ล้านบาท ดังนั้น งบดุลของบริษัทจึงจะแข็งแกร่งมากขึ้น โดยคาดว่าสัดส่วน D/E ในปี 2564-65 จะอยู่ที่ 1.8x (เพดาน D/E อยู่ที่ 3x) ซึ่งจะทำให้ JMART สามารถปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลได้ 


ประเมินราคเป้าหมายที่ 51 บาท (P/E ที่ 30x) แนะนำซื้อ 

ประเมินมูลค่าหุ้น JMART โดยอิงจาก P/E ที่ 30x สะท้อนอัตราการเติบโตของกำไรในอีกสองปีข้างหน้า ทั้งนี้ เราใช้ P/E ตามส่วนแบ่งกำไร โดยในการประเมิน JMART (P/E 35x, SINGER P/E 24x) เราใช้ P/E สำหรับธุรกิจร้านขายมือถือที่ 25x และธุรกิจอื่น ๆ ที่ 25x ซึ่งเมื่อใช้ P/E ที่ 30x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2565F ของ JMART ที่ 51 บาท คิดเป็น PEG ที่ 0.7x จากอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยสองปี (รวมการแปลง warrant ในปี 2565 แล้ว) ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ  


Risks

ธุรกรรมระหว่างกันในด้านกู้ยืม, รายได้, งบลงทุน (capex), การเติบโตของกำไรของ J-Mobile และ J.  

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X