ทันหุ้น –ASEFA วางเป้ารายได้รวมปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-10% จากปีก่อน อวดแบ็กล็อกแน่น 2.65 พันล้านบาท คาดว่า 80% รับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่เนื่องอีกกว่า 2-3 พันล้านบาท วางงบ 20-30 ล้านบาท รองรับการพัฒนาด้าน IT

นายวิชัย สุนทรวุฒิกุล กรรมการบริหาร และผู้จัดการฝ่ายอาวุโสสำนักบริหาร บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมในปี 2564 มองว่ายังคงเป็นปีที่มีความท้าทายอยู่ เนื่องจากว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในปัจจุบันยังคงดูมีความไม่แน่นอนสูง แม้ว่าขณะนี้ภาครัฐจะมีการกระจายวัคซีนไปบ้างแล้ว แต่กว่าที่การยับยั้งการแพร่ระจายของไวรัสอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ทำให้ในปีนี้การำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง

ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ 5-10% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,712.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 218.50 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอการทยอยส่งมอบ (Backlog) อีกกว่า 2,658 ล้านบาท แบ่งเป็นงาน Manufacturing Product ประมาณ 44%, งาน Integrated Eng.Services & After Sales Services ราว 50% และ 6% ที่เป็นสัดส่วนงาน Supplied & Distributed Product เป็นต้น เบื้องต้นคาดว่าบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จาการส่งมอบงานในปีนี้ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่า Backlog ทั้งหมดในมือ

*ประมูลงานใหม่ 3 พันล.

โดยบริษัทยังเดินหน้าหางานใหม่ต่อเนื่อง ทั้งส่วนของงานภาครัฐและงานภาคเอกชน แม้ว่าช่วงที่ผ่านมางานอาจจะชะลอไปบ้าง แต่ก็ยังมีเข้าร่วมประมูลงานใหม่ ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเข้าร่วมประมูลงานราว 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งทยอยทราบผลการประมูล แต่โครงการส่วนใหญ่จะเป็นโครงการภาครัฐ เพราะว่าเอกชนอาจจะยังไม่ได้มีการลงทุนจำนวนมากในขณะนี้ ทั้งนี้งานส่วนใหญ่จะเป็นโครงการ Mega Trands เช่น รถไฟรางคู่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ โครงการส่วนต่อขยายสนามบิน โครงการระบบสายไฟใต้ดิน (Underground Cable System) สถานีไฟฟ้า (Substation) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการดาต้าเซ็นเตอร์ รวมไปถึงโครงการสมาร์ทกริด และสมาร์ทซิตี้ ซึ่งโครงการเหล่านี้บริษัทก็มีความพร้อมที่จะเข้าไปดำเนินการ

ส่วนแผนการลงทุนในปี 2564 นั้น เบื้องต้นบริษัทวางการใช้งบประมาณไว้ที่ราว 20-30 ล้านบาท หลักๆ เพื่อเป็นการปรับปรุงและพัฒนาทางด้านระบบ IT ขณะเดียวกันบริษัทยังให้ความสำคัญในการดูแลบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายให้คงอยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้บริษัทจะรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ที่ระดับไม่น้อยกว่าปีก่อนที่ 8.06%

*ผนึกพันธมิตรเสริมแกร่ง

ขณะเดียวกันบริษัทพยายามปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ ทั้งสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรที่จะทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมไปถึงส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพด้วย อีกทั้งสนใจที่จะเข้าไปรับงานโปรดักส์ใหม่ อย่างกลุ่มโซลาร์ แบตเตอร์รี่ เป็นต้น แต่ทั้งนี้การเข้าไปเสนองานให้แก่ลูกค้าจะเป็น แพ็จเก็จครบวงจรหรือเป็น Solution มากขึ้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าเกี่ยวกับงานระบบไฟฟ้าได้อย่างครบวงจร (One Stop Service) รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับ เจ้าของโครงการ (End User) ด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังจะมีการขยายช่องทางและแนวทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบใหม่ๆที่หลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่ม รวมไปถึงการขยายธุรกิจ โดยร่วมลงทุนกับพันธมิตรใหม่ๆ ในลักษณะ กิจการร่วมค้า กิจการค้าร่วม และการขยายบริษัทในเครือ อย่างไรก็ดีการดำเนินการโครงการในอนาคตของบริษัท เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนรองรับความต้องการของลูกค้าและเพิ่มการเติบโตของตลาดและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1