ทันหุ้น - ACE ซุ่มดีล M&A โรงไฟฟ้าราว 3-4 ดีล อัพฐานผลิตเพิ่ม คาดชัดเจนภายในปีนี้ พร้อมทุ่มงบ 1.4 หมื่นล้านบาท ปั้นโรงไฟฟ้าใหม่อีก 200 เมกะวัตต์ ปูทางโกยเงินระยะยาว ส่วนปี 2564 คาดผลงานโตต่อเนื่องจากปี 2563 อานิสงส์เก็บเกี่ยวค่าไฟฟ้าพุ่ง
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าควบรวมกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าประมาณ 3-4 ดีล เพื่อขยายฐานธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งรูปแบบมีทั้งโครงการเปิดจำหน่ายไฟฟ้า (COD) แล้วและต้องปรับปรุงหวังได้เห็นความชัดเจนในปี 2564
ปัจจุบันทาง ACE มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วกำลังการผลิตติดตั้งรวมราว 257.7 เมกะวัตต์ (MW) และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีกประมาณ 200 เมกะวัตต์ ตลอดจนมองหาโอกาสในการเข้าลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง อาทิ การเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนในเฟสที่ 1 ขนาดกำลังผลิต 150 เมกะวัตต์, โครงการโรงไฟฟ้าขยะอีกราว 400 เมกะวัตต์ เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอีกทางหนึ่ง
ทุ่มงบปั้นโครงการเพิ่ม
นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งงบลงทุนช่วงปี 2564-2565 ไว้ราว 1.4 หมื่นล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการไฟฟ้าที่ธุรกิจได้มีการรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้า (PPA) แล้วช่วงที่ผ่านมา โดยแหล่งเงินทุนนั้นคงมาจากวงเงินกู้สถาบันการเงินในส่วนของแต่ละโครงการ 70% ส่วนที่เหลือมาจากกระแสเงินสดของธุรกิจและการดำเนินงาน รวมถึงเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ในอนาคต
ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทได้ ได้เข้าลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA โครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid นาบอน 1 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 25.00 เมกะวัตต์ มีสัญญา PPA 21.50 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid นาบอน 2ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 25.00 เมกะวัตต์ มีสัญญา PPA 21.50เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกฟผ.
ทำให้ในปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid ที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เป็นที่เรียบร้อยแล้วรวม 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 70 เมกะวัตต์ คงเหลือเพียง 1 โครงการคือโครงการโรงไฟฟ้า SPP Hybrid ระนอง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 23 เมกะวัตต์ ยังอยู่ในขั้นตอนการขอขยายระยะเวลาการลงนามในสัญญา PPA และขยายกำหนดวัน SCOD กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2564 ประเมินว่าน่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2563 ที่มีรายได้ราว 6.05 พันล้านบาท เพราะธุรกิจมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าสูงขึ้น หลังมีกำลังใหม่เพิ่มเติม ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
สตอรี่เด่น
ด้านนักวิแคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองต่อหุ้น ACE ภายหลังทางบริษัทได้รับปัจจัยบวกเกี่ยวกับการได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือ PPA โรงไฟฟ้า SPP Hybrid นาบอน 1 และ 2 กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ทั้งนี้ การได้ PPA ดังกล่าว เป็นไปตามที่ผู้บริหารเคยแจ้งไว้ โดยโครงการ SPP Hybrid ดังกล่าวคาดว่าจะ COD ได้ในช่วงปี 2565 โดยทางฝ่ายวิเคราะห์ได้นับรวมประมาณการของโครงการดังกล่าวไว้ใน Target Price ของฝ่ายวิจัยข้างต้นแล้ว
ซึ่ง อิงวิธี DCF จากโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว 19 โครงการ และที่อยู่ระหว่างเจรจาอีก 13 โครงการ รวมกำลังการผลิต 450 เมกะวัตต์
อนาคตไกล5.20บ.
ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินความน่าจะเป็นของมูลค่าของโครงการที่มีความเป็นไปได้ในอนาคต อีกทั้งธุรกิจยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตลอดจนราคาหุ้นของ ACE ปัจจุบันราคาหุ้นคิดเป็น PER ปี 2564 ที่ 17 เท่าและ PER ปี 2565 ที่ 12 เท่า ยังนับว่าราคายังถูกเทียบกับโอกาสในการเติบโตข้างหน้า จึงทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ยังคงให้นำหนักการลงทุนในหุ้นของ ACE รวมทั้งให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ACEให้ราคาเป้าหมายที่ 5.20 บาทต่อหุ้น
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม