ทันหุ้น – BEM ผู้โดยสารฟื้นไวเกิน 2 แสนแล้ว ทางด่วนเกิน 1 ล้านคันต่อวัน ครึ่งหลังฟื้นอีก คาดทั้งปี 2564 เฉลี่ย 3 แสนคนต่อวัน และเพิ่มเป็น 4 แสนคนต่อวันในปี 2565 จนแตะ 5 แสนเที่ยวคนต่อวันปี 2566 นักวิเคราะห์ย้ำกำไรสุทธิโตต่อเนื่อง 3 ปีเปิดเมืองหนุน เคาะเป้าปีนี้ 9.72 บาท ไม่รวมสายสีส้มอีก 1.28 บาท

นายธนาวัฒน์ วรรณดิษฐ์ ผู้จัดการอาวุโสนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนและรถไฟกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ระบุ จำนวนผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRTและปริมาณการจราจรในระบบทางด่วนของกลุ่มบริษัท ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 และค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันในช่วงวันทำงานปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2.1-2.6 แสนเที่ยวคนต่อวัน ขณะที่ปริมาณการจราจรบนทางด่วนช่วงวันทำงานเฉลี่ยระหว่าง 1-1.1 ล้านคันต่อวัน ทั้งนี้ประมาณการว่า ณ สิ้นปี 2564 ปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าMRT จะแตะ 3 แสนเที่ยวคนต่อวัน ส่วนปริมาณการจราจรในระบบทางด่วนมีแนวโน้มเฉลี่ยที่ 1.2 ล้านคันต่อเที่ยวต่อวัน

“เดือนเมษายนปี 2563 ปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT หายไปกว่า 70% จากมาตรการสาธารณสุข และเมื่อดำเนินมาตรการผ่อนคลายปริมาณผู้โดยสารก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนใกล้แตะ 2 แสนเที่ยวคนต่อวัน แล้วก็กลับมาสู่สถานการณ์การระบาดรอบใหม่ในประเทศ ที่รัฐบาลดำเนินมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดโดยไม่ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT เดือนมกราคม 2564 หายไปเพียง 40% จากนั้นก็เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนบางวันสามารถแตะระดับ 2.6 แสนเที่ยวคนต่อวันไ คาดว่า สิ้นปีจะเฉลี่ยที่ 3 แสนเที่ยวคนต่อวัน ส่วนการจราจรบนทางด่วนนั้นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว”

@ผู้โดยสารจากนี้มีแต่ขึ้น

ทั้งนี้กลุ่มบริษัทคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 (2H64) จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง, การดำเนินมาตรการผ่อนคลายภาครัฐ รวมถึงการทยอยฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศ หนุนให้ประชาชนมีความมั่นใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตปกติ จึงคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าMRT ปี 2565 เฉลี่ยที่ 4 แสนเที่ยวคนต่อวัน และแตะระดับ 5 แสนเที่ยวคนต่อวันในปี 2566 ขณะที่ปริมาณการจราจรบนทางด่วน มีแนวโน้มกลับสู่ระดับสูงกว่า 1 ล้านคันต่อวันได้อย่างต่อเนื่อง

“การเปิดประเทศนั้นยังคงต้องติดตามนโยบายภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งถ้าเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาก็จะถือเป็น Paint Up Demand แต่ปริมาณผู้โดยสารในประเทศเองก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายต่างๆ อาทิสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย, สายสีแดง ฯลฯ ล้วนเป็นการส่งต่อปริมาณผู้โดยสารเข้าสู่ MRT ส่วนการปรับขึ้นค่าบริการ ตามหลักการแล้วบริษัทก็ต้องใช้สิทธิ์ปรับขึ้นตามสัญญา แต่ในทางปฏิบัติก็ต้องประเมินความเหมาะสมแต่ละช่วงเวลาประกอบ ทั้งมาตรการภาครัฐ, อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น, รวมถึงต้นทุนการดำเนินการของกลุ่มบริษัท ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะใช้สิทธิ์ปรับขึ้นตามสัญญา แต่ก็จะมีส่วนลดกลับคืนไปให้กับผู้โดยสารในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสม”

กำไรโตต่อเนื่อง 3 ปี

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุในบทวิเคาะห์ คาดการณ์กำไรสุทธิของ BEM มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง 3 ปี โดยคาดกำไรสุทธิท้ังปี 2564 ที่ 3,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.53% YoY, กำไรสุทธิท้ังปี 2564 ที่ 4,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.85%, และแตะ 5,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.76% ในปี 2566 หนุนจาก ปริมาณการจราจรบนทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารในระบบ MRT ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว  โดยเบื้องต้นคาดการณ์ปริมาณการจราจรบนทางด่วนของ BEM ทั้งปี 2564 ไว้ 1.15 ล้านเที่ยวคันต่อวัน เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 2563 (YoY) ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารรายวันที่ระบบ MRT น่าจะเฉลี่ยที่ 3.18 แสนคนต่อเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 22%YoY สมมติฐานดังกล่าวได้รวม MRT สายสีน้ำเงินทั้งเส้นทางเข้ามาแล้ว

พร้อมกันนี้ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมองเป็นบวกต่อการดำเนินมาตรการผ่อนคลายท้ังในประเทศ และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของภาครัฐ จะเป็นปัจจัยหนุนทั้งปริมาณการจราจรบนทางด่วน และผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT โดยคาดปริมาณการจราจรบนทางด่วนทั้งปี 2565 ไว้ที่ 1.26 ล้านเที่ยวคันต่อวัน เพิ่มขึ้น 9.3% YoY, และปี 2566 ที่ 1.28 เที่ยวคันต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.7% YoY ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT ท้ังปี 2565 เฉลี่ยที่ 3.98 แสคเที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 18.6%YoY, และแตะ 4.73 แสนเที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 24.1%YoY ในปี 2566

ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินอัตราค่าผ่านทางทางด่วนโดยเฉลี่ยจะปรับเพิ่มขึ้น 0.2% ในปี 2564 และปรับเพิ่มขึ้น 4.3% ในปี 2565 อิงจากสัญญา สำหรับอัตราค่าโดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT จะปรับเพิ่มขึ้น 1% ในปี 2564 แต่จะทรงตัวในปี 2565 จากนั้นจะโตขึ้น 0.7% ในปี 2566 ตามดัชนีราคาผู้บริโภคกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม (CPI) จึงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมปีนี้ที่ 9.72 บาท ทั้งนี้หาก BEM เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) คาดมีส่วนเพิ่มในมูลค่าหุ้นประมาณ 1.28 บาทต่อหุ้น

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1