ทันหุ้น - THREL วางเป้าหมายการเติบโตในปี 2564 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 3-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคาดว่าจะต่อเนื่องในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า พร้อมเดินหน้าคลอดผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาร่วมคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง สยายปีกเจาะตลาดต่างแดน เล็งดึกพันธมิตรรายใหญ่ช่วยเสริมแกร่ง

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในปี 2564 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 3-5% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคาดว่าในระยะ 3-5 ปีข้างหน้านี้จะยังคงมีการเติบโตต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้

โดยกลยุทธ์หลักๆ มาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กับคู่ค้า(Non-Conventional)  ซึ่งเป็นแผนงานหลักที่ THREL เน้นมากยิ่งขึ้น และเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของแบบประกันชีวิต และประกันสุขภาพ ที่มีความต้องการค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น  ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตให้กับบริษัทได้มากขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้โครงสร้างธุรกิจจอง THREL แบ่งออกเป็นธุรกิจดั่งเดิม (Conventional) ซึ่งเป็นการการรับงานประกันภัยต่อจากบริษัทประกันชีวิตไทย จำนวน 22 บริษัท ขณะที่ Non-Conventionalเป็นธุรกิจที่บริษัทร่วมพัฒนาขึ้นกับลูกค้าประกันชีวิต โดยบริษัทจะเป็นผู้ทำการศึกษาความต้องการของตลาด และเข้าไปคุยกับบริษัทประกันชีวิต เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และบริษัทประกันชีวิตจะบริหารความเสี่ยงโดยส่งเบี้ยประกันภัยต่อมาให้กับ THREL

ซึ่งข้อดีของโมเดลธุรกิจ Non-Conventional บริษัท THRELสามารถจำกัดความเสี่ยงของงานที่รับประกันภัยต่อได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่องบการเงินบริษัทเช่นกัน

ผนึกกำลังคู่ค้า

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจและมองหาโอกาสในการขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่าง CLMV และในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง มีการขยายตัวของประชากรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ

โดยในการเข้าไปขยายตลาดดังกล่าวจะเป็นแบบการเข้าไปร่วมกับคู่ค้าท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการเติบโต และในปี 2564 บริษัทก็มีความคาดหวังว่าจะได้ข้อสรุปในการลงทุนในประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ทำให้คาดว่าจะมีเบี้ยเข้ามาในสัดส่วน 5-10% ของเบี้ยรับรวม

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าในการลงทุนในด้าน AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยี เพื่อนำค่าสถิติในข้อมูลพื้นฐานที่ทั้งบริษัทและพันธมิตรมีอยู่ในมือ (Data Analytics) มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อนำเสนอขายให้กับลูกค้าทั้งรายเดิมและรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเซ็นสัญญากับทางพันธมิตรรายใหญ่ "Pacific Life Re Limited" คาดว่าในช่วงกลางปี 2564 จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อนำเสนอขายได้

แม้ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19แต่เบื้องต้นคาดว่าในระยะยาวจะสดใสขึ้น เนื่องจาก “ประกัน” ถือว่ามีความจำเป็นต่อทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ดังนั้นบริษัทฯ จึงเร่งเดินหน้าจับมือพันธมิตร คิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมไปถึงการพัฒนา Digital Platform ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal

ธุรกิจประกันชีวิตปี63หดตัว

นอกจากนี้ THREL ได้ประเมินภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตในปี 2563 ว่า มีเบี้ยประกันภัยรับรวม ราว 600,000 ล้านบาท ลดลง 1.7% จากปี 2562 อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นอัตราการชะลอตัวที่ดีกว่าปีก่อนหน้าซึ่งติดลบถึง 2.7%เป็นผลมาจากภาคธุรกิจมีการปรับโครงสร้างกรมธรรม์ ลดการขายสินค้าสะสมทรัพย์ที่อิงกับอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันให้ผลตอบแทนที่ต่ำมาก โดยมาเสนอขายสินค้าคุ้มครอง ที่เป็นประกันชีวิตแบบตลอดชีพ และพ่วงด้วยสัญญาแนบท้ายประกันสุขภาพเข้าไป

THREL ชี้ว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เบี้ยประกันชีวิตปีแรก (FYP) ของภาคธุรกิจขยายตัวลดลง แต่มาดูในส่วนของประกันสุขภาพกับมีการเติบโตอย่างเด่นชัด และเป็นแนวโน้มที่ยังคงเติบโตต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผลจากปี 2563 ที่ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตมีการเติบโตลดลง ที่ 1.7% ส่งผลให้ในส่วนของ THREL ก็มีเบี้ยรับประกันภัยต่อลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 2,339 ล้านบาท จากปี 2562 อยู่ที่ 2,340 ล้านบาท