> SET > KBANK

22 เมษายน 2021 เวลา 14:07 น.

KBANK-TMB ตั้งสำรองลด ดันกำไรโค้งแรกโตแกร่งใส

ทันหุ้น - KBANK เผยกำไรไตรมาส 1/2564 โต 44% YoY รายได้เพิ่ม-ตั้งสำรองลดลง ด้านTMB ตั้งสำรองเหลือ 5.4 พันล้านบาทหนุนกำไรพุ่ง 125.3% QoQ ทางด้านผู้บริหารประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศยังต้องพึ่งมามาตรการภาครัฐ เน้นดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง


นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2564 ที่ 10,627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แต่ลดลง 19.30% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/2563 (QoQ)


ทั้งนี้ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 19.3% YoY หรือเพิ่มขึ้น 1,923 ล้านบาท เป็นผลจากการปรับมูลค่ายุติธรรม (Mark to Market) ของสินทรัพย์ทางการเงินตามภาวะตลาด และค่าธรรมเนียมรับจากการจัดการกองทุนเพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลงจำนวน 950 ล้านบาท หรือลดลง 5.44% จากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 41.30% รวมทั้งธนาคารและบริษัทย่อยมีการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 8,650 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 3,222 ล้านบาท หรือ 27.14%

ณ วันที่ 31 มี.ค.64 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,767,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2563 จำนวน 108,317 ล้านบาท หรือ 2.96% 


สำหรับอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) อยู่ที่ระดับ 153.98% โดยสิ้นปี 2563 อยู่ที่ระดับ 149.19% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 18.44% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.80%


อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2564 ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นอยู่กับการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศ ดังนั้นธนาคารจะยังคงดำเนินงานโดยยึดหลักความระมัดระวัง – รอบคอบในการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว ตามแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ ขณะที่ภาคการส่งออกสินค้า (ไม่รวมทองคำ) ก็เริ่มได้รับอานิสงส์บางส่วนจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก


TMB กำไรโต 1.25 %

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิ หลังตั้งสำรองทั้งสิ้น 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 (QoQ) แต่ลดลง 33.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น หรือ ROE ที่ 5.5%


ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองในไตรมาส 1/2564 ทั้งสิ้น 5,480 ล้านบาท ลดลง 33.47% เมื่อเทียบกับ 8,237 ล้านบาทในไตรมาส 4/2563 ซึ่งการตั้งสำรองสะท้อนแบบจำลอง ECLที่เข้มงวดของธนาคารซึ่งได้รวมผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นบนพอร์ตสินเชื่อจากมาตรการความช่วยเหลือเข้ามาด้วย


ด้านคุณภาพสินทรัพย์เป็นไปตามที่คาดการณ์ว่าในปี 2564 จะเริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพ ทั้งที่มาจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้ และจากแนวโน้มการแก้หนี้ที่คาดว่าทำได้ช้าลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.75% เทียบกับ 2.50% ในไตรมาส 4/2563 และยังคงต่ำกว่ากรอบประมาณการที่ระดับไม่เกิน 3.6% ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อคุณภาพย่อตัวลงมาอยู่ที่ 124% จาก 131% ในไตรมาส 4/2563 สำหรับเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier1) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 อยู่ที่ 15.5% และอัตราส่วน CAR (เบื้องต้น) อยู่ที่ 19.5%


นายปิติ กล่าวว่า ธนาคารยังคงเร่งดำเนินงานตามแผนรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต ได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าการรวมธนาคารจะเสร็จสิ้นได้ตามกำหนดภายในเดือนกรกฎาคม 2564 ตามกำหนด พร้อมกันนี้ประเมินสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมยังคงมีความท้าทายจากผลกระทบของโควิด-19 ธนาคารจึงเน้นการเติบโตธุรกิจอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อที่จะมุ่งเน้นคุณภาพของสินเชื่อเป็นหลัก ซึ่งอาจส่งผลกดดันต่อรายได้ดอกเบี้ย แต่ถือเป็นการลดความเสี่ยงให้กับงบดุลหรือคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X