ทันหุ้น – “นิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ” แม่ทัพหญิง HPT แย้มอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้ายุโรปย้ายฐานผลิตจากอินเดียมาไทย เชื่อออร์เดอร์ไหลเข้าเพียบ เผยปัจจุบันคำสั่งซื้อจากอเมริกา-ยุโรปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งซิกยอดขายปีนี้พุ่ง 100% จากปีก่อน หนุนผลงานพลิกบวก

นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิคระดับสากล เปิดเผยว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ายุโรปที่มีฐานการผลิตในประเทศอินเดีย เพื่อนำออเดอร์มาผลิตที่ไทย หลังจากอินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก และไม่สามารถผลิตสินค้าให้กับลูกค้าได้ ซึ่งบริษัทคาดว่าหากได้ออเดอร์เข้ามาเพิ่มเติม จะเป็นโอกาสการขยายฐานธุรกิจใปยังประเทศที่บริษัทยังไม่สามารถเข้าถึง และเป็นการเพิ่มอัตราการเติบโตให้กับบริษัท ซึ่งไม่รวมในเป้าหมายการเติบโตในปีนี้

ออร์เดอร์ไหลเข้า

สำหรับภาพธุรกิจและผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 มีทิศทางเป็นบวก เพราะบริษัทมีคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) จากลูกค้าอเมริกา ยุโรปเข้ามามากขึ้น เนื่องจากอเมริกา และยุโรป ฉีดวัคซีนให้ประชากรได้มากแล้ว ทำให้ประชากรกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ทั้งนี้ออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดรอส่งมอบ(Backlog) เพิ่มขึ้นแตะ 50 ล้านบาท จาก Backlog ปกติอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท

ขณะที่กำลังการผลิตปัจจุบัน บริษัทสามารถทำได้ 3 ล้านชิ้นต่อปี คาดจะเพียงพอต่อออเดอร์ที่มีเข้ามา ทั้งนี้ปี 2563 บริษัทได้ปรับปรุงกำลังการผลิต และเตรียมความพร้อมจากปีก่อน ทำให้ในปี 2564 บริษัทพร้อมจะผลิตสินค้าและส่งมอบได้ตามความต้องการจากลูกค้า

สำหรับทิศทางธุรกิจ และผลประกอบการทั้งปี 2564 บริษัทมองภาพจะเป็นปีที่ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะปีก่อนบริษัทปิดปรับปรุงไลน์ผลิต 3 เดือน ส่วนปีนี้หากไม่มีสถานการณ์กดดัน คาดจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มปี

ยอดขายโต 100%

อย่างไรก็ตามบริษัทได้ประเมินทิศทางยอดขายปี 2564 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 100% เมื่อเทียบกับปี 2563 และคาดว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นบวก จากปีก่อนที่ขาดทุน 8.36 ล้านบาท โดยจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 เป็นต้นไป อนึ่งปี 2563 บริษัทมียอดขายที่ 100.06 ล้านบาท

ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายหลักจะมาจากกลุ่มลูกค้าโรงแรม ร้านอาหารเป็นหลัก ส่วนกลุ่มครัวเรือน อาจจะยังเห็นสัดส่วนไม่มาก เพราะบริษัทเริ่มเจาะฐานครัวเรือนในปี 2563 ส่วนสัดส่วนการขายจะมาจากต่างประเทศที่ 81% และในประเทศที่ 19%

ด้านธุรกิจจำหน่ายเครื่องครัวในประเทศ ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าผ่าน บริษัท เซ็นทรัล ฮอสพิแทลลิที จำกัด (CHL) นั้น บริษัทได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติมจากโรงแรมร้านอาหารมาเป็นกลุ่มครัวเรือนมากขึ้น ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้ง Online และ Offline ซึ่งมีสัดส่วนที่เติบโตและคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีในปี 2564

โดยแบรนด์ที่ CHLจำหน่ายนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ Petye (เพทาย) ซึ่งเป็นสินค้าที่บริษัทเป็นผู้ผลิตเอง หรือ Victorinox มีดทำครัวจากสวิตเซอแลนด์ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำเข้า รวมถึงแก้วเครื่องดื่มคริสตัล Chef&Sommelier จากฝรั่งเศส

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1