ทันหุ้น – HMPRO ประเมินยอดขายสาขาเดิม(SSSG) ไตรมาส 2/2564 เติบโตกว่าไตรมาสแรกที่ 0.6% ส่วนครึ่งปีหลัง2564 เล็งออกโปรโมชั่นใหม่ๆ กระตุ้นกำลังซื้อ คาดทำผลงานได้ดีกว่าครึ่งปีแรก2564 เตรียมเปิดสาขาใหม่ 1 แห่งเพิ่ม ส่วนต่างประเทศลุยตลาดมาเลเซียเร่งจุดคุ้มทุน ด้านเวียดนามยังต้องเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภค

นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบัญชีและการเงินเลขานุการ บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG)ในไตรมาส 2/2564 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาสที่ 1/2564 อยู่ที่ 0.6% เนื่องจากปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบของการปิดสาขา แต่ในปีนี้ถึงแม้ว่าจะมีการระบาดของ โควิด-19 ครั้งที่ 3 แต่ก็ไม่ได้มีการปิดสาขา ซึ่งยังสามารถเปิดจำหน่ายได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามผลประกอบการในไตรมาส2/2564 คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัว  แต่ทั้งนี้ตลาดคงยังไม่ได้กลับไปเป็นสภาพเดิม เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังไม่ได้กลับมาเหมือนเดิม

ครึ่งปีหลังโตกว่า

โดยช่วงครึ่งปีหลัง2564 ทิศทางผลประกอบการคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งบริษัทยังเน้นการออกโปรโมชั่น เพิ่มยอดขาย และควบคุมค่าใช้จ่าย ส่วนตัวกระตุ้นกำลังซื้อก็คาดว่าจะมาจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาด และมาตรการต่างๆที่ทางภาครัฐบาลจะออกมาช่วยเหลือประชาชน รวมถึงการปรับตัวของภาคเอกชน ซึ่งก็น่าจะมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้ความมั่นใจผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้บริษัทจะเน้นรุกช่องทาง Omni Channel เพิ่มขึ้น และเพิ่มฐานรายได้จาก B2B แพล็ตฟอร์ม เพิ่มบริการออนไลน์ผ่านช่องทางใหม่ Chat Shop4You ส่งฟรี รวมถึงมีบริการ Same day delivery และ Next day delivery ขยายเวลาการส่งถึงเวลา 21.00 น. รวมถึงรุกบริการขาย B2B โดยให้แต่ละสาขาติดต่อไปยังบริษัทและร้านค้าต่าง ๆ โดยตรง เสนอการขายสินค้าในปริมาณมาก ด้วยราคาที่ถูกกว่า ซึ่งอาจกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงบ้าง แต่ได้ยอดขายจำนวนมากขึ้น

ตลาดมาเลย์หนุน

สำหรับสถานการณ์ในต่างประเทศ ประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันมี 6 สาขา ถึงแม้ว่าจะประสบปัญหาการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศไทย แต่ถือว่าอัตราการทำกำไรดีขึ้น ขาดทุนลดลง ซึ่งบริษัทก็พยายามจะทำให้สาขาในประเทศมาเลเซียถึงจุดคุ้มทุนได้ และในปี 2564 บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2564 ส่วนในประเทศเวียดนามบริษัทได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้มีการเปิดสาขา โดยเป็นการเริ่มขายผ่านแพลตฟอร์มมาร์เก็ต เพลส ในประเทศเวียดนาม เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นรายได้จึงยังไม่เข้ามายังบริษัทมากนะ สำหรับโอกาสในการจัดตั้งสาขาบริษัทอยู่ระหว่างหาโลเคชั่น

สำหรับการขยายสาขาในประเทศไทยบริษัทวางแผนที่จะเปิดโฮมโปร 1 สาขาในปีนี้ ในโซนพื้นที่บางนา และยังไม่ได้มีสาขาเพิ่มเติมในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเร่งหาพื้นที่โลเคชั่นใหม่ๆ เพื่อสำหรับการเปิดทั้งสาขาโฮมโปรและเมกะโฮม ในปีถัดไป

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ระบุว่า ภาพรวม SSSG เดือน เม.ย.2564อยู่ในแนวบวกระดับแข็งแกร่งจากฐานที่ต่ำปีที่แล้วแม้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ระลอกสามตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้เดินสาขาลดลง 50-60% MoM ยอดขายจากแพล็ตฟอรม์ ออนไลน์เช่น shop4u และ เว็ปไซต์เพิ่มขึ้นมากพอที่จะช่วยชดเชยยอดขายในสาขาที่ลดลงได้ ขณะที่ลูกค้าเดินทางมาที่สาขาใช้เวลาเดินซื้อของในสาขาน้อยลงแต่ยอดขายโดยรวมยังไม่ได้ปรับลดอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ผู้บริหารคงเป้า SSSG ปี 2564 ที่ 3-5% GPM เพิ่มขึ้น 30bps และสัดส่วนสินค้าprivate label ที่ 20% ตามเดิม ดังนั้นจึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ไว้ตามเดิมที่6,130 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19ระลอกสามจะจำกัดและสถานการณ์จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง2564 คงคำแนะนำ "ซื้อ” ราคาเป้าหมาย ที่ 16.70 บาท อิงจาก EPS เฉลี่ยปี 2565-66 ที่ 32.6 เท่า หรือเท่ากับ 1.0SD มากกว่า PER เฉลี่ยในอดีต

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1