บลจ.กสิกรไทยมองบวกหุ้นจีน ลดถือหุ้นเทคเข้าOld Economy

ทันหุ้น-บลจ.กสิกรไทย ยังให้น้ำหนักตลาดหุ้นจีนกับมุมมองการลงทุนระยะยาว พร้อมแนะนำเพิ่มสัดส่วนหุ้นในหมวด Old Economy อย่างธุรกิจการเงิน ประกันภัย กลุ่มวัสดุ เป็นต้น ชูกองทุน K-CHX ถืองหุ้นเทคสัดส่วนน้อยรับมือ หุ้น Growth Stock ผันผวน

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่าการลงทุนในจีน ยังคงมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะมุมมองระยะยาวที่ บลจ.กสิกรไทยได้วิเคราะห์แล้วนั้น จีนยังคงสามารถสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้แม้จะมีปัจจัยกดดันในส่วนของเทควอร์ (Tech War) กับสหรัฐ แต่การปรับโครงสร้างประเทศตามนโยบายใหม่ของจีนจะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนระยะยาว

“เรายังคงมุมมองบวกต่อการลงทุนหุ้นจีน จากการหันมาเน้นกำลังซื้อในประเทศ ส่วนประเด็นเรื่องสงครามการค้ากับสหรัฐนั้น โจ ไบเดนไม่ได้ให้น้ำหนักในเรื่องนี้มากเท่ากับเทควอร์ หรือสงครามเทคโนโลยี ที่สหรัฐพยายามจะสกัดกั้นการเติบโตของจีนในด้านนี้ จากมุมมองที่ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนจะนำไปสู่การเปลี่ยนมหาอำนาจโลกได้ในอนาคต”

แต่อย่างไรก็ตาม จีนยังคงสามารถสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ต่อเนื่องจากกำลังซื้อในประเทศที่มีอยู่สูง จำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอำนาจในการจับจ่ายใช้สอย สะท้อนได้จากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2563 ที่ผ่านมา แม้โควิด-19จะระบาดหนัก แต่จีดีพียังโตบวกได้ราว 2% และปี 2564 คาดว่าจะโตราว 8% ในขณะที่สหรัฐและยุโรปคาดว่าจะโตที่ระดับ 5% ในปีนี้ จากปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจติดลบ

นายนาวิน บอกด้วยว่าหากเทียบเรื่องการส่งออกปัจจุบันการส่งออกของจีน สัดส่วนอยู่ที่ราวๆ 19% ของจีดีพีเท่านั้น แต่กำลังการบริโภคในประเทศกลับเติบโตในสัดส่วนที่สูงราว 50% ของจีพีดี และมองว่าการบริโภคของจีนไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เพราะยุทธศาสตร์ชาติ 5 ปี กับการปรับโครงสร้างประเทศมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี พึ่งพากำลังบริโภคในประเทศ สะท้อนว่าจีนจะมีการกระจายรายได้ที่มากขึ้นกว่าปัจจุบัน

ในขณะที่การลงทุนในหุ้นจีนช่วงนี้อาจมีความผันผวน โดยเฉพาะการลงทุนในระยะสั้น ซึ่งนายนาวิน มองว่า ส่วนหนึ่งมาจากการปรับฐานของตลาดหุ้นทั่วโลก และความกังวลที่เงินเฟ้อของสหรัฐเร่งตัวขึ้นเร็วเกินคาด สร้างแรงกดดันต่อหุ้น Growth Stock หรือหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี

ดังนั้นสำหรับความกังวลในปัจจัยดังกล่าวอาจปรับพอร์ตลงทุนโดยลดสัดส่วนในหุ้นเทคลงได้ โดยอาจเพิ่มสัดส่วนเข้าลงทุนในกลุ่ม Old Economy ธุรกิจการเงิน หรือกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัว กลุ่มที่เกี่ยวกับการอุปโภค-บริโภค และกลุ่มธุรกิจประกันภัย เป็นต้น

ที่ผ่านมาการลงทุนในกองทุนหุ้นจีนอาจเน้นไปที่กลุ่มนวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งในภาวะที่ตลาดหุ้นเทคทั่วโลกถูกเทขาย นายนาวิน แนะนำ กองทุนที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นเทคไม่สูงมาก ซึ่งในสว่นของ บลจ. กสิกรไทยแนะนำกองทุน กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน (K-CHX) กองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน CSOP FTSE China A50 ETF (RMB) (กองทุนหลัก)

โดยกองทุนหลักลงทุนส่วนใหญ่ในหุ้นจีน A-Share ตามดัชนี FTSE China A50 ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้นโยบายเชิงรับ เพื่ออสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและต่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับดัชนี FTSE China A50 (ดัชนีอ้างอิง) ข้อมูล Iวันที่ 31 มีนาคม 2564 กองทุนหลักลงทุน ในกลุ่มธูุรกิจการเงิน (Financial) กลุ่มเฮลธืแคร์ (Health Care) กลุ่มวัสดุ (Material) เป็นต้น