ทันหุ้น – BPP มองหาโอกาสลงทุนต่างประเทศ ดีลซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ 2 แห่ง และโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น และเวียดนามเพิ่ม หวังเพิ่มกำลังการผลิตแตะ 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 จากปัจจุบัน 2,929 เมกะวัตต์ เล็ง COD โรงไฟฟ้าในเวียดนาม 68 เมกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีน ภายในปีนี้

ดร.กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม และรีนิวเอเบิล ทั้งในประเทศสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้วเพื่อรับรู้รายได้เข้ามาทันที โดยการซื้อกิจการในสหรัฐฯ ก็เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้เกิด Synergy กับบริษัทแม่บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่ถือหุ้นในแหล่งก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) จำนวน 2 แหล่งในสหรัฐฯ ได้แก่ แหล่งบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเทกซัส และแหล่งมาร์เซลลัส (Marcellus) ในรัฐเพนซิลเวเนีย

*ลงทุนพลังงานต่างแดน

ส่วนความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ขนาดกำลังการผลิตตั้งแต่ 1,000-1,600 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำดีลดิลิเจนท์ หากปิดดีลได้สำเร็จจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 2 โครงการ ในเวียดนาม กำลังการผลิต 68 เมกะวัตต์ คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในปีนี้ รวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินซานซีลู่กวง (SLG) ประเทศจีน คาดจะ COD ได้ในไตรมาส 3/2564

สำหรับการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น อยู่ระหว่างดูความเป็นไปได้ในการลงทุนซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโครงการโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC จังหวัดฟุกุชิมะ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้า IGCC ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น รวมถึงยังมองโอกาสในการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้ารีนิวเอเบิล ในญี่ปุ่น และเวียดนาม เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ทิศทางการลงทุนบริษัทยังมุ่งขยายพอร์ตพลังงาน ปัจจุบัน COD เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ขณะนี้บริษัทมีกำลังผลิตรวม 2,929 เมกะวัตต์ และพร้อมขยายสู่เป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

*ชูเป้าหมาย 18 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BPP อัพเกรดเป็น “ถือ” เนื่องจากราคาหุ้นชนราคาเป้าหมายแล้ว จึงเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 18 บาท จาก 17.50 บาท (13.6% WACC, 2% LTG) เพื่อสะท้อนกำไรจากโรงงาน Nakoso IGCC โดยรายได้น่าจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง 2564 จากรายได้เพิ่มจาก Nakoso และ SLG

ความเสี่ยงยังคงอยู่ที่ 1.ราคาถ่านหินที่สูงขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2564 2.อาจเกิดความล่าช้าของ SLG โดย BPP ได้กำหนดแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5.3GW (พลังงานความร้อน 4.3GW, พลังงานหมุนเวียน 1GW) ภายในปี 2568 จาก 2.8GW ปัจจุบัน (ความร้อน 2.4GW, พลังงานหมุนเวียน 0.4GW) ทิศทางเป็นบวก แต่สเกลดูท้าทาย

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ระบุถึง BPP ว่า ราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่ 18.0บาทต่หุ้น เทียบเท่า P/E ปี 2564 ที่ 12.9 เท่า และผลตอบแทนเงินปันผล 4.4% ขณะที่ BPP ตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสู่ 5.3GWe ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายจากระดับกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 2.9GWe valuation ของ BPP ที่ไม่แพงจะช่วยจำกัดความเสี่ยงดาวน์ไซด์

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1