ทันหุ้น –NYT-SAT รับอานิสงส์ส่งออกยานยนต์โตแรง ด้าน NYT เผยปริมาณเรือผ่านท่าเทียบเรือทยอยฟื้นตัว ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้ามีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ย 90% เจรจาขยายพื้นที่เพิ่ม ฟากโบรกเชียร์ซื้อทั้ง NYT ให้ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท และ SAT  ราคาเป้าหมาย 28 บาท มองบวกกับแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดด

แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เปิดเผยถึง บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT ว่า ยอดส่งออกรถยนต์ที่ดีต่อเนื่องส่งผลดีต่อบริษัททำให้จำนวนรถยนต์ผ่านท่าเทียบเรือเพิ่มขึ้น โดยในเดือนเมษายนจำนวนผ่านท่าเทียบเรืออยู่ที่ประมาณ 50,000คัน ทั้งที่เป็นโลซีซันที่มีวันหยุดเยอะ และคาดว่าสถานการณ์จะดีต่อเนื่อง หากประเทศคู่ค้ามีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เช่นออสเตรเลีย ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ในเอเชียอาจจะต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และมีโอกาสที่จะส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามการผลักดันการใช้งานในหลายประเทศ

พร้อมกันนี้ในส่วนของธุรกิจบริหารคลังสินค้าปัจจุบันมีพื้นที่ให้บริการประมาณ 270,000 ตารางเมตร มีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยราว 90% และยังศึกษาขยายพื้นที่เพิ่มต่อเนื่อง ปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการเจรจราแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ดีจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,199.47 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/2564มีรายได้แล้วกว่า 341.50 ล้านบาท

*NYTรายได้เข้าสู่โหมดฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NYT ว่า ผลจากภาพรวมอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ขณะที่เรือขนส่งรถยนต์ยังดำเนินการได้ปกติ จึงปรับสมมติฐานยอดส่งออกรถยนต์ขึ้น 5% เป็น 1 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 32%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และด้วยสินค้าผ่านท่าเรือ C0ที่กลับมาเป็นปกติ ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ทำได้ดีกว่าคาด จึงปรับกำไรสุทธิปี 2564-2565 เพิ่มขึ้น 6% และ 12% จากคาดการณ์เดิมเป็น 382 ล้านบาท (เติบโต 67%) และ 414ล้านบาท (เติบโต 8% ) ตามลำดับ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท จุดเด่นของ NYT คือเป็นธุรกิจกึ่งผูกขาดที่มี High Operating Leverage เมื่อรายได้เข้าสู่โหมดฟื้นตัวกำไรสุทธิจะฟื้นได้แรงกว่า

*SAT ยอดขายโตแรง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SAT ว่าแนวโน้มในระยะสั้น คาดว่าโมเมนตัม ของกำไรในไตรมาส 2/2564จะเร่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่แผ่วลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของผลประกอบการ ทั้งนี้ยังคงมองบวกกับแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะโตถึง 149% เป็น 924ล้านบาท คาดว่ายอดขายจะโตแรงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพลาข้าง (Axle Shaft) ใหม่เพิ่มเข้ามาอีกปีละ 300 ล้านบาท

ในขณะที่คาดธุรกิจเครื่องจักรการเกษตรจะฟื้นตัวได้ดี โดยกลับมาสูงกว่าระดับก่อนที่ COVID-19 จะระบาดแล้วได้ปี 2564 ในขณะเดียวกัน คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564จะเพิ่มขึ้น 4.7ppts จากปีก่อน เป็น 19.8% จากการประหยัดต่อขนาด และประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น แนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 28.00 บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1