ทันหุ้น -MAJORรับข่าวดีกระตุ้นฉีดวัคซีน หวังผลงานไตรมาส 3/64 พลิกกำไร หนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวเข้าฉาย เช่น Fast & Furious 9 กระตุ้นรายได้เพิ่ม ส่วนหนังไทยจ่อเข้าฉายทุกสัปดาห์ เชื่อปี2565 ผลงานกลับมาฟื้นตัวเด่น เชื่อนักลงทุนสถาบันยังให้ความเชื่อมั่น ฟากโบรกมองบริหารต้นทุนเข้ม ครึ่งปีหลังกลับมามีกำไร ทั้งปีคาดกำไร304 ล้านบาท

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่าในช่วงนี้เริ่มมีการเร่งกระจายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน คาดว่าจะช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้นตามลำดับ โดยปัจจุบันได้มีการปิดโรงภาพยนตร์ ไป 439 โรง จาก 817 โรง ทำให้คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2564 อาจจะยังเห็นตัวเลขขาดทุนเพราะเป็นช่วงที่รับผลกระทบจากโควิด-19 เต็มไตรมาส แต่บริษัทก็คาดว่าหากการกระจายวัคซีนดีขึ้น บริษัทก็คาดหวังว่าผลประกอบการไตรมาส 3/2564 มีโอกาสจะเห็นตัวเลขพลิกกำไร เพราะมีหนังฟอร์มยักษ์ทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศ ทยอยฉาย เช่นวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จะมีหนังเรื่อง Fast & Furious 9  เข้าฉาย ซึ่งเป็นหนังที่ทุกคนรอคอย คาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นโอกาสผลักดันผลประกอบการช่วงไตรมาส 3/2564 ด้วย

ลุ้นพลิกกำไรQ3

“บริษัทก็มีความคาดหวังว่าการฉีดวัคซีน จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น บริษัทก็พยายามบริหารจัดการโรงหนัง มีการเว้นระยะที่นั่ง 2 เว้น สองที่นั่ง ซึ่งเชื่ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และการที่มีหนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวเข้าฉายจะทำให้เป็นโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยหนังในช่วงครึ่งปีหลังก็จะมีเข้าฉายจำนวนมาก ทั้งหนังไทยและต่างประเทศ ซึ่งอั้นมากจากช่วงครึ่งปีหลัง “ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทก็มีการควบคุมค่างใข้จ่ายให้อยู่ระดับที่บริหารจัดการได้ ซึ่งคาดว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริษัทจะใกล้เคียงช่วงไตรมาส 3/2564 ในด้านการลงทุนบริษัทก็ยังมีการลงทุนต่อเนื่องสำหรับการขยายโรงพยายนต์แห่งใหม่ แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและสถานที่ในการที่จะขยาย โดยจะยังคงเน้นหัวเมืองใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมาก นอกจากนี้บริษัทเชื่อว่านักลงทุนสถาบันยังให้ความสนใจธุรกิจของบริษัทต่อเนื่อง ซึ่งในระยะนี้ก็มีการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนสถาบันอยู่เสมอเพื่อให้นักลงทุนเข้าในถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และแนวโน้มในอนาคต ส่วนประเด็นความกังวลที่ลูกค้าจะหันไปดูหนังในช่องทางแพลตฟอร์มอื่นมากขึ้นกว่าการมาชมในโรงภาพยนต์หรือไม่ เชื่อว่าหากสถานการณ์โควิด-19คลี่คลายลงลูกค้าก็ยังจะให้ความสนใจเข้ามาชมในโรงภาพยนตร์

โอกาสสะสม

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุถึง MAJOR ว่าแนวโน้มไตรมาส 2/2564 ยังขาดทุนเพิ่ม จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น ลบ 153 ล้านบาท จากผลกระทบ COVID-19 ระลอกสาม แต่ดีขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ปลาย ไตรมาส 2/2564 มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ Fast 9 เข้าฉาย เทียบกับปี 2563 ไม่มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉาย และ MAJOR มีประสิทธิภาพบริหารต้นทุนดีขึ้น ยังคงคาดกำไรปี 2564 อยู่ที่ 304 ล้านบาท ฟื้นจากปี 2563 ขาดทุนสุทธิ -528 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐานสาคัญภาครัฐคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกสามได้ภายในเดือน มิถุนายน 2564 ทำให้ ครึ่งปีหลังปี 2564 ฟื้นกลับมามีกำไร

ดังนั้นคงคำแนะนา Buy ราคาพื้นฐาน 23.50 บาท แต่อย่างไรก็ตาม มองเป็นโอกาส “ทยอยสะสม” ครึ่งปีหลัง ปี 2564 มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่จาก Hollywood รอเข้าฉายหลายเรื่อง และ ราคาหุ้น MAJOR ปัจจุบันไม่แพง ซื้อขายที่ Forward PE’22F เพียง 12x ต่ากว่าค่าเฉลี่ย PE ในอดีตอยู่ที่ 20x (ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานธุรกิจโรงภาพยนตร์กลับสู่ภาวะปกติในปี 2565 )

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1