> SET > BTS

10 มิถุนายน 2021 เวลา 10:39 น.

BTSจัดองค์กร-ดีลพันธมิตร เล็งเป้าดันธุรกิจ-รายได้โต

ทันหุ้น -BTS ปรับโครงสร้างเข้าสู่ “holding company” เต็มรูปแบบ หวังเติบโตทั้งจากธุรกิจทรานสปอร์เทชั่น ที่เข้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นำบิ๊กดาต้าต่อยอดทั้งการผลิตสินค้าและพัฒนารูปแบบการขาย-บริการ รองรับต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พร้อมมองโอกาสเติบโตร่วมกับพันมิตรทั้งโครงสร้างธุรกิจและมูลค่าเงินลงทุนในตลท. ลั่นไม่กังวลกทม.มีศักยภาพชำระหนี้สูง


นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจทรานสปอร์เทชั่น (Move) ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยปัจจุบันบีทีเอสเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระยะทาง 68 กิโลเมตร จำนวน 60 สถานี  ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองนั้น ยังคงเป็นไปตามกรอบเวลาสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปี 2565


โดยมีแผนทยอยเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงถนนลาดพร้าวภายในไตรมาส 4/2564 โดยกลุ่มบริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะเติบโต 3 เท่าเป็น 3 ล้านคน/วันในปี2568 จากปี 2563 หรือก่อนเกิดโควิด-19 มีจำนวนผู้โดยสาร 8 แสนคน/วัน


กระจายการลงทุน


ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมีแผนกระจายการลงทุน เข้าสู่โครงสร้างพื้นฐานอื่นอาทิ ติดตั้งระบบและการบำรุงรักษา (O&M) มอเตอร์เวย์ 2 สายทางประกอบด้วย 1.บางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร และ 2.บางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ภายในปลายไตรมาส 2/2564 - ไตรมาส 3/2564 ,โครงการสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA จะเสนอ “มาสเตอร์แพลน (Master Plan)” ต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (คณะกรรมการ EEC) ภายในเดือนมิถุนายน 2564 นี้ตามกำหนดเวลา


สร้างธุรกิจใหม่ต่อยอด


2.ธุรกิจมีเดีย(Mix) กลุ่มบริษัทจะนำดาต้าจากทั้ง “แรบบิด” และฐานข้อมูลของพันธมิตรทางธุรกิจมาเป็นฐาน ประกอบการพัฒนารูปแบบสินค้า และงานบริการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างตรงจุด ทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงพัฒนารูปแบบการนำเสนอสินค้าที่มากกว่างานขายในรูปแบบเดิมเดิม


และ3.กลุ่มบริษัทยังคงมองหาการเติบโตโดยการผนึกพันธมิตร( Match) ผสมผสานศักยภาพของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และพันธมิตรสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีศักยภาพ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างผลตอบแทนร่วมกันทั้งการดำเนินธุรกิจ และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน


ไม่ตั้งสำรองหนี้กทม.


นายสุรยุทธ กล่าวถึงกรณีภาระหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท จากการติดค้างค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียว 1 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และส่วนต่อขยายสายสีเขียว 2 ช่วงหมอชิด-คูคต รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และระบบติดตั้งการเดินรถราว 2 หมื่นล้านบาท จากกทม. โดยกลุ่มบริษัทได้ปรึกษากับบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีแล้วสรุปว่าไม่จำเป็นต้องตั้งสำรอง เนื่องจาก กทม.มีความมั่นคงทางการเงิน  รวมทั้งอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ AA+ ส่วน BTS และ BTSC ระดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A


ขณะเดียวกันทางกทม.ก็เร่งดำเนินการต่ออายุสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยได้ยื่นเรื่องรอบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรี ผ่านกระทรวงมหาดไทยตามขั้นตอน ซึ่งกลุ่มบริษัทก็ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X