ทันหุ้น – SCN เปิดตัวสแกน ไอซีที รองรับธุรกิจการจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งเป้างานในมือสิ้นปี2564 ที่ 600 ล้านบาท พร้อมรุกธุรกิจกัญชง-กัญชาเต็มรูปแบบ ส่องไตรมาส 2/2564 ธุรกิจก็าซธรรมชาติเริ่มฟื้น ลุย COD โรงไฟฟ้ามินบูเฟส 2 ภายในปีนี้ และเฟสที่เหลือในไตรมาส 2/2565 และยังเดินหน้าขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดธุรกิจใหม่ บริษัท สแกน ไอซีที จำกัด หรือ SCAN ICT ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจการจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีการพัฒนาและขยายตัวอยู่เสมอในทุกภาคธุรกิจ ที่แม้จะเป็นธุรกิจน้องใหม่ในเครือ แต่ภายใน 3 เดือนหลังจัดตั้งก็สามารถทำผลงานได้อย่างต่อเนื่อง มีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 100 ล้านบาท อยู่ระหว่างการประมูล 400 ล้านบาท คาดว่างานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog)  ปีอยู่ที่ 600 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ในปี 2565

และล่าสุดกับการจัดตั้ง บริษัท สแกน เมดิเฮิร์บ จำกัด เพื่อมุ่งหน้ารุกธุรกิจกัญชง กัญชา อย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่การสกัด แปรรูป ไปจนถึงการจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับจากกัญชง กัญชา

Q2ธุรกิจก็าซเริ่มฟื้น

สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 2/2564 คาดว่าทิศทางของธุรกิจก๊าซธรรมชาติจะเริ่มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของก๊าซธรรมชาติ iCNG ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เริ่มกลับมาฟื้นตัว และจากการเริ่มขายก๊าซธรรมชาติ iLNG

รวมถึงประเทศไทยเริ่มมีการฉีดวัคซีน โควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV สูงขึ้น ทำให้ผลประกอบการของสถานีบริการก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังได้งานสัญญางานซ่อมบำรุงสถานีบริการก๊าซ NGV จาก บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)หรือ PTT เมื่อปลายปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยหนุนอีกช่องทางหนึ่ง

รับรู้กำไรต่อเนื่อง

ด้านธุรกิจทางด้านพลังงาน บริษัทยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรอย่างต่อเนื่อง จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ณ เมืองมินบู ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบูเฟส 2-4 ตามแผนที่วางไว้ ถึงแม้จะมีการชะลอเล็กน้อยจากผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด -19 ซึ่งบริษัทตั้งใจว่าจะเร่งจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้ามินบูเฟส 2 ให้ทันภายในปีนี้ และโรงไฟฟ้ามินบูเฟส 3-4 คาดว่า (COD) ในช่วงไตรมาสที่ 2/2565

และทางด้านบริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด หรือ SAP ที่ดำเนินโครงการซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน จากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาก็ได้ (COD) เพิ่มขึ้นอีก 1 โครงการ รวมเป็น 11 โครงการ กำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์ จากโครงการในมือทั้งหมดกว่า 19 เมกะวัตต์ และยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง  โดยตั้งเป้ามีกำลังการผลิตรวม 110 เมกะวัตต์ ในปี 2567

ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ บริษัทยังเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย โดยสัญญาซ่อมบำรุงรถเมล์ จำนวน 489 คัน สามารถทำรายได้ให้อย่างต่อเนื่อง จากงานซ่อมบำรุงที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้บริษัทยังได้เริ่มดำเนินธุรกิจจำหน่ายอะไหล่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจยานยนต์ พร้อมทั้งผลักดันธุรกิจขนส่งให้เดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้บริษัททำรายได้จากธุรกิจขนส่งได้ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้าถึง 7.5% ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมผลประกอบการให้บริษัทนับจากนี้

ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 30%, ธุรกิจด้านพลังงาน 30% , ธุรกิจยานยนต์ 30% และธุรกิจน้องใหม่ "บริษัท สแกน ไอซีที จำกัด" (SCAN ICT) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจการจำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 10%

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1