ทันหุ้น – ARROW ชี้ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส เตรียมปรับราคาขายเพิ่มขึ้นตามราคาวัตถุดิบ เชื่อหนุนผลงานเติบโตต่อเนื่อง พร้อมกางแผนรักษางานในมือไม่ให้ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ใส่เกียร์ชิงงานเติมแบ็กล็อกปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 1.2 พันล้านบาท จ่อบุ๊คเงินเข้าปีนี้ 50%
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยว่า ครึ่งปีหลังปี 2564 บริษัทจะปรับขึ้นราคาขาย ตามทิศทางต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูง เพื่อให้ยอดขายและต้นทุนไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังปี 2564 บริษัทมองยังเป็นสัญญาณที่ดี และคาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยปัจจัยที่จะสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง มาจากการปรับราคาขาย และมารเก็ตแชร์ของบริษัทที่ยังอยู่ในลำดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม
สต็อกเพียงพอ
“เรามีสต็อกสินค้าไว้เพียงพอต่อออเดอร์ที่มีปัจจุบัน และออเดอร์ที่จะมีเข้ามาเพิ่มเติมในครึ่งปีหลัง เราจึงไม่กังวลเรื่องสินค้า อีกทั้งทิศทางต้นทุนอยู่ในช่วงขาขึ้น เราจึงปรับราคาขายสูงขึ้นให้สอดคล้องไปกับต้นทุน”นายธานินทร์ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะพยายามรักษางานในมือ(Backlog) ไม่ให้ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เบื้องต้นคาดจะมีงานประมูลในครึ่งปีหลังต่อเนื่อง แต่จะยังไม่ใช่งานโครงการใหญ่มากนัก เพราะเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัว ประกอบกับผู้ประกอบการหลายราย ยังจับตาดูภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีหลังว่าจะเป็นอย่างไร ทำให้งานโครงการใหญ่น่าจะยังไม่มีออกมาจำนวนมาก
ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ราว 1.2พันล้านบาท คาดจะรับรู้เป็นรายได้ช่วงที่เหลือของปี 2564 ประมาณ 50% และบริษัทจะหางานใหม่เข้ามาทดแทนงานเดิมที่ถูกรับรู้รายได้ไป
ออร์เดอร์ไหลเข้า
ทั้งนี้บริษัทยังคงได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ในการส่งออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งท่อร้อยสายไฟฟ้า (Electrical Conduit), ท่อร้อยไฟ (EMT/IMC/RSC), ท่อร้อยสายไฟแบบอ่อน (FMC), ท่อร้อยสายไแบบอ่อนกันน้ำ (LFMC), ท่อน้ำประปา (PP-R), ท่อระบายอาาศ ท่อสำรับงานก่อสร้าง และท่อสายไฟฟ้าใต้ดิน (RTRC) เป็นต้น ตามการขยายตัวจากโครงการลงทุนทั้งส่วนงานโครงการภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นลูค้าหลักของบริษัท
นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า เป้าหมายการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการผลักดันมาร์จิ้นให้เติบโตสูงขึ้น และไม่เน้นยอดขายมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ทำให้ภาพการผลักดันให้ยอดขายเติบโตสูงขึ้นอาจจะเป็นไปได้ยาก ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนปรับขึ้นราคาสินค้าให้ลูกค้าล็อตใหม่
ดันมาร์จิ้นสูงขึ้น
อีกทั้งยังมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับต้นๆ คาดปัจจัยดังกล่าวจะแรงผลักดันให้มาร์จิ้นปีนี้ดีกว่าปีก่อน ระดับอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิให้ไม่ต่ำกว่า 15-20% และ 10% ตามลำดับ จากปีก่อนที่ทำได้ 28.42% และ 12.91% ตามลำดับ อนึ่ง 3 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้แล้ว 299.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 42.82 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 14.02%
นายธานินทร์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ส่วนแผนการลงทุนในปี 2564 มองว่ายังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งในปีนี้บริษัทมีเพียงการลงทุนติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) มูลค่าลงทุนราว 30 ล้านบาท เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก BOI อีกด้วย คาดว่าใช้ระยะเวลาราว 6-7 ปีจะถึงจุดคุ้มทุน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตั้งคาดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2564
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม