ทันหุ้น - THANI รัฐสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่กระทบยอดสินเชื่อใหม่ มองความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกยังคงมีอยู่มากตามการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่อาจคุมเข้ม NPL และให้การช่วยเหลือลูกหนี้แต่ละกลุ่มอย่างเหมาะสม โค้ง 2/64 อาจทรงตัวหรือดีกว่าไตรมาสแรก ยังคงเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปีนี้แตะ 2.4 หมื่นล้านบาท

นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า การสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้นั้น มองว่าไม่ส่งผลกระทบในแง่ของการปล่อยสินเชื่อใหม่ เนื่องจากความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกเพื่อการขนส่งในปัจจุบันยังคงขยายตัวต่อเนื่องเพียงแต่จากนี้อาจต้องมีความระมัดระวังต่อการปล่อยสินเชื่อใหม่มากขึ้นเพื่อป้องกันสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)

*จับตาครึ่งหลังปีฟื้น

ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปี 2564 จะยังคงความสามารถในการรักษาระดับ NPL ไว้ที่ไม่เกิน 4%รวมถึงยังให้ความสำคัญในการวางแผนช่วยเหลือลูกหนี้แต่ละกลุ่มตามความเหมาะสมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ส่วนการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญนั้น ที่ผ่านมาบริษัทมีการตั้งสำรองไว้ค่อนข้างสูงและในตอนนี้ยังคงรับมือได้อยู่ ส่วนยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ (New loan) ในช่วงไตรมาส 2/2564 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับราว 1,700-1,800ล้านบาท และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังหากสถานการณ์ต่างๆ เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ก็มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยอด New loan ปี 2564 นี้ บริษัทยังคงเป้าหมายไว้ที่ไม่น้อยกว่า 24,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 1,800-2,000 ล้านบาทต่อเดือน โดยประเมินว่าความต้องการสินเชื่อใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้อของประชาชนที่เปลี่ยนไปใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น หนุนให้ธุรกิจ E-commerce ขยายตัวและมีความต้องการรถบรรทุกเพื่อการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น สนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างในปี 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50,000 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกขนาดพอร์ตอยู่ที่ประมาณ 47,228.60 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2564 มองว่าอาจมีการเติบโตที่ทรงตัวจากไตรมาส 1/2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,031.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 426.88 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงและยังมีการขยายตัวเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้มองว่ากำลังซื้อในประเทศจะยังคงหดตัวลง หลายธุรกิจโดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบดังกล่าว บริษัทจึงให้ความรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อใหม่มากขึ้น

**โบรกมองบวก”ซื้อ”

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 6.00 บาท โดยมอง THANI เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยยอดขายรถบรรทุก (68% ของสินชื่อทั้งหมด) ในประเทศ 5 เดือนปี 2564 ยังขยายตัวสูงที่ 23% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ดังนั้นทางฝ่ายจึงยังคงสมมติฐานสินเชื่อรวมจะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งปี 2564 ที่เติบโต 6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และปี 2565 ที่เติบโต 12% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน

สนับสนุนโดย 1) ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในไตรมาส 2/2564 ที่ 1.8 พันล้านบาทต่อเดือน ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/2563 ที่อยู่ที่ 1.3-1.4 พันล้านบาทต่อเดือน และเป็นไปตามเป้าใกล้เคียงไตรมาส 1/2564, 2) ความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 2564 จาก, GDP ปี 2564/2565 คาดที่เติบโต 2.25% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.82% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ตามการลงทุนของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น, 3) ได้รับผลกระทบจำกัดจากการที่ภาครัฐจะเข้ามาควบคุมอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยเพิ่ม เนื่องจากบริษัทเน้นให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการมากกว่า 70%

และ 4) ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งคาด D/E ปี 2564/2565 ที่ 3.2 เท่า (ต่ำกว่า covenant ที่ 6.0 เท่า) ทางฝ่ายปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ลดลง 6% อยู่ที่ 1.90 พันล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากการปรับค่าใช้จ่ายสำรองฯ เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับไวรัสโควิด-19 ในขณะที่ทางฝ่ายประเมินกำไรสุทธิปี 2565 จะกลับมาขยายตัว 17% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 2.23 พันล้านบาท จากสินเชื่อที่จะขยายตัว 12% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ NPL ลดลงเป็น 3.3% และ cost to income ปรับตัวลงเป็น 16.6% ตามขาดทุนรถยึดที่น้อยลง