ทันหุ้น - PRIME โดดรับผลตอบแทนขายไฟพุ่ง-ธุรกิจใหม่ หนุนผลงาน Q2/2564  ด้านบิ๊ก "สมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ " ยืนปี2564 รายได้ตามเป้า 2 พันล้านบาท จากกลุ่มธุรกิจสดใส ล่าสุดลงทุนโซลาร์ไต้หวันเพิ่ม ดันกำลังผลิตไฟฟ้าทะลุ 309 เมกะวัตต์ พร้อมเดินหน้าลุยโครงการใหม่ต่อเนื่อง

แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส2/2564 จะเห็นผลงานเติบโตอย่างชัดเจนจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีโครงการใหม่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์(COD) เพิ่มเติม ประกอบกับมีธุรกิจใหม่ๆ อาทิ ธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่าย (เทรดดิ้ง) อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ และธุรกิจในส่วนออกแบติดตั้งและให้คำปรึกษาด้านนวัตกรรมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ชื่อ"PRIME X"เข้ามาเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดของบริษัท ณ สิ้นไตรมาส1/2564 ในส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้ามีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมและติดตั้งทั้งหมด309 เมกะวัตต์ (MW) จากโครงการทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ซึ่งเป็นกำลังผลิตไฟฟ้าที่COD แล้วทั้งหมดราว 87 เมกะวัตต์ ซึ่งหากจำแนกสัดส่วนรายได้ของบริษัทล่าสุดนั้นมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในโครงการทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็นตัวเลขราว 92.4% และที่อีก 7.6% มาจากธุรกิจใหม่ในส่วนต่างๆ ได้แก่ เทรดดิ้ง, การวางระบบและติดตั้งแผงเซลล์บนหลังคา (รูฟท็อป) ฯลฯ รวมทั้งยังมีแนวทางเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมรายรับในอนาคตให้ดียิ่งขึ้ต

ปีนี้โตก้าวกระโดด

นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทยังคงเป้ารายได้ไว้ราว 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี2563 ที่ราว 373 ล้านบาท ผลจากธุรกิจมีการรับรู้รายได้จากการไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น หลังมีโรงไฟฟ้าใหม่เริ่มเปิดดำเนินเชิงพาณิชย์ในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันยังมีงานในส่วนของโครงการโซลาร์รูฟท็อปในรูปแบบสัญญาซื้อขายของภาคเอกชน(Private PPA) และอื่นๆ เข้าเสริม ประกอบกับมีรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ อาทิ ธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่าย รวมทั้งมีโอกาสได้รับโครงการใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต

ลุยโซลาร์ไต้หวัน

นอกจากนี้ ล่าสุดทางPRIME ได้อนุมัติให้บริษัท ไพร์ม โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ PSE ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน50,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน100% ของทุนจดทะเบียนของบริษัทJF Energy จำกัด หรือ  JF และซื้อหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน100% ของทุนจดทะเบียนของบริษัทJK Energy จำกัด หรือ  JK จากบริษัท  KWE Corporation หรือ KWE ซึ่งทั้งสองบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไต้หวัน ด้วยมูลค่าการเข้าทำรายการเท่ากับ1.13 ล้านบาท หรือ 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในประเทศไต้หวัน

โดยในส่วนของ JF และ JK ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านพลังงานทดแทน, ธุรกิจลงทุนทั่วไป และอุตสาหกรรมการค้าระหว่างประเทศ

พร้อมกันนี้ยังให้ JF , JK และบริษัท Jingtai Energy จำกัด หรือ  Jingtai ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งในฟาร์มเลี้ยงปลาในร่ม ระยะที่ 3 ประเทศไต้หวัน 3 โครงการ โดยกำลังการผลิตติดตั้งรวม 6 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่า362.28 ล้านบาท หรือ 320.60 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งการเข้าลงทุนโครงการดังกล่าวนั้นส่งผลให้กำลังผลิตไฟฟ้าของบริษัทขยับสูงขึ้น

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1