เงินลงทุนเข้าธีม ESG ผลตอบแทนไม่ขี้เหร่

ทันหุ้น- ธีมลงทุน ESG ผลงานไม่ขี้เหร่ มอร์นิ่งสตาร์สะท้อนภาพจากดัชนีความยั่งยืน ให้ผลตอบแทน 8.8% ในสหรัฐ ซึ่งมากกว่าการลงทุนในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ส่วนในไทยมี ESG รวม 48กองทุน มูลค่าทรัพย์สินโตกว่า 80%สะท้อนนักลงทุนสนใจธีมธุรกิจยั่งยืน

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การลงทุนยั่งยืน (ESG) เป็นอีกหนึ่งธีมที่ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญ เพราะไม่เพียงการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระต่อ สังคมและสิ่งแวดล้อม หากในแง่ของผลตอบแทนก็สามารถทำได้ดีไม่แพ้กับกลุ่มธีมลงทุนอื่นๆ

ในสหรัฐอเมริกา ไตรมาส2/64 การลงทุนแบบ ESG สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าการลงทุนทั่วไป โดยดัชนี Morningstar U.S. Sustainability Index ให้ผลตอบแทน 8.8%สูงกว่า Morningstar U.S. Large-Mid Cap Index ที่ 8.5% อย่างไรก็ตามในไตรมาสแรกการลงทุนที่ไม่เน้นเรื่อง ESG สร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า ESG Index บางตัวได้เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น กลุ่มพลังงานมีผลตอบแทน 30% ขึ้นไป ในขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีอยู่ที่ราว 2% ทำให้ Sustainability Index ที่มีสัดส่วนกลุ่มพลังงานต่ำกว่าอาจสร้างผลตอบแทนได้น้อยกว่า แต่กระนั้นในระยะยาวพบว่า Sustainability Index สร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับการลงทุน broad market

ส่วนการลงทุนอย่างยั่งยืนในประเทศไทยมีจำนวน 48 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 5.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.5%จากธันวาคม 2563 ในรอบครึ่งปีมีเงินไหลเข้าสุทธิ 2.4หมื่นล้านบาท มีกองทุนเปิดใหม่จำนวน 5 กองทุน รวมครึ่งปีแรกมีกองทุนเปิดใหม่ 20 กองทุน ในจำนวน 48 กองทุนเป็นการลงทุนหุ้นในประเทศ 15 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินราว 1.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเพียง 2.7% ของมูลค่าการลงทุนยั่งยืนทั้งหมด

ปัจจุบัน บลจ. ส่วนใหญ่มีการเปิดขายกองทุนยั่งยืนแล้ว 16 บลจ. จาก 23 บลจ. โดยบลจ.กสิกรไทยมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 33.0% ตามมาด้วยบลจ.ธนชาต 22.9% และบลจ.เอ็มเอฟซี 12.2% รวม 3 อันดับแรกมีส่วนแบ่งตลาด 68% โดยกองทุนขนาดใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กองทุน K-CHANGE-A(A) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 11.4%ต่อปี กองทุน T-ES-GGREEN ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี -9% ต่อปี กองทุนMRENEW-D กองทุนผลตอบแทนย้อน1ปี 6.9% ต่อปี (ข้อมูล 30 มิ.ย.64)