> SET > SCB

26 กรกฎาคม 2021 เวลา 10:00 น.

SCB โบรกฯ มองราคาหุ้นรับรู้ 2H64 ที่อ่อนแอแล้ว คงเป้ากำไรปี 64-66

ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าเพื่อแก้ปัญหา NPL ในระยะยาว โดยตั้งเป้า 20% ของสินเชื่อรวมซึ่งจะช่วยผ่อนคลาย credit cost ในปี 2564-65 สินเชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการเยียวยาลดลง QoQ จากสินเชื่อรายย่อยและ SME 90% ของสินเชื่อที่สิ้นสุดระยะเยียวยายังสามารถชำระเงินคืนในไตรมาส 2/2564 คาดกำไรช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะอ่อนตัวลง HoH แต่สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 117 บาท 


ตั้งเป้าปรับโครงสร้างสินเชื่อในระยะยาว SCB เริ่มต้นแผนช่วยลูกค้าในระยะยาว โดยออกโปรแกรมปรับโครงสร้างหนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่าแผนการดังกล่าวเป็นการเคลื่อนไหวที่ดี เพราะจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) แต่ต้องแลกกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่ออัตราตอบแทนสินเชื่อ ธนาคารตั้งเป้าปรับโครงสร้างที่ 20% ของสินเชื่อรวม ซึ่งคาดจะรวมถึง 16% ของสินเชื่อรวมที่เป็นสินเชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการเยียวยา (LRP) แล้ว ขณะที่สัดส่วนที่เหลือจะมาจากลูกค้าบางรายที่สิ้นสุดระยะเวลาเยียวยาแล้ว ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าเป้าหมายดังกล่าวต้องใช้เวลาระหว่างช่วงครึ่งหลังของปีนี้ถึงครึ่งแรกของปี 2565 และคาดว่าสินเชื่อที่อยู่ภายใต้แผนปรับโครงสร้างดังกล่าวจะมีการจัดประเภทขึ้นเป็นสินเชื่อปกติ


คงเป้าธุรกจิ ปี 2564 ตามเดิม ทั้งนี้ผู้บริหารคงเป้าธุรกิจปี 2564 ไว้ตามเดิม เช่น สินเชื่อเติบโตขึ้น 3-5% สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ในระดับ 40 ตอนต้นถึงกลาง NPL อยู่ที่ 4-4.5% และ credit cost อยู่ที่ต่ำกว่า 200bps ฝ่ายวิจัยคาดว่าสินเชื่อและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII) จะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่คาดว่ารายการอื่น ๆ จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ Credit cost ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 อยู่ที่ 176bps ขณะที่คงประมาณการ credit cost ปี 2564 ไว้ตามเดิมที่ 187bps เพราะคาด credit cost ช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คาดเดาไม่ได้


ปริมาณสินเชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการเยียวยามพัฒนาการดีขึ้น SCB รายงาน LRP ไตรมาส 2/2564 ที่ 376,000 ลบ. (16% ของสินเชื่อรวม) ลดลงจาก 429,000 ลบ. ในไตรมาส 1/2564 จากทุกกลุ่มสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย LRP ของกลุ่มรายย่อยปรับลดลงผลจากมาตรการพักชำระหนี้ของสินเชื่อบ้านและรถยนต์ที่สิ้นสุดระยะเวลาลงและปริมาณสินเชื่อที่ขอกลับเข้าสู่โปรแกรมเยียวยาที่ลดลง SCB กำลังโอนการพักชำระหนี้เป็นปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้ารายย่อย SCB เปิดเผยว่า 60% ของลูกค้าที่ออกจาก LRP สามารถกลับมาชำระหนี้สินได้ตามปกติตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดไว้และ 90% ยังสามารถชำระเงินคืนหลังสิ้นสุดมาตรการเยียวยาในไตรมาส 2/2564 แม้ฝ่ายวิจัยคาดว่า LRP จะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่เชื่อว่าสถานการณ์ LRP จะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้จากโปรแกรมปรับโครงสร้างสินเชื่อในเชิงรุก


ภาพรวมกำไรสุทธิช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะอ่อนตัวลงจากครึ่งแรกของปีนี้จาก non-NII ที่ปรับลดลงผลจากค่าธรรมเนียมจาก bancassurance และการบริหารความมั่งคั่งที่ลดลงตามสถานการณ์โควิด-19 และคาดว่า credit cost จะสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยเชื่อราคาหุ้นรับรู้ภาพรวมช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่อ่อนแอแล้ว คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-66 ไว้ตามเดิมที่ 3.49 หมื่นลบ./3.46 หมื่นลบ./4.53 หมื่นลบ. และคาดว่ากำไรสุทธิจะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป


คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 117 บาท ยังชอบ SCB จากฐานค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่งซึ่งจะช่วยหักล้างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่อ่อนแอและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ มูลค่าหุ้น ขณะนี้ค่อนข้างถูกเพราะซื้อขายด้วย PBV ที่ 0.7 เท่า ในปี 2564-65 หรือเท่ากับ 1.75SD ต่ำกว่า PBV เฉลี่ยในอดีต



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X