ทันหุ้น – THANI ชี้ความต้องการรถบรรทุกใหม่ยังขยายตัวต่อเนื่อง จากความต้องการขนส่งที่ขยายตัวตามธุรกิจโลจิสติกส์ คาดไตรมาส 4/2564 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ฟื้น หลังลูกค้าโอนรถได้เพิ่มขึ้น ยันหมดห่วงเหตุตั้งสำรองไว้สูง แถมคุม NPL ต่ำ 4% ขณะที่คงเป้ายอดปล่อยสินเชื่อทั้งปี 2.4 หมื่นล้านบาท พอร์ตสินเชื่อคงค้างแตะ 5 หมื่นล้านบาท

นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงขยายตัวในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาครัฐออกมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงกว่า 13 จังหวัด เพื่อควบคุมความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อในพื้นที่สีแดงเข้มสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะขยายระยะเวลาออกไปอีก มองว่าอาจส่งผลกระทบต่อยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) ในช่วงไตรมาส 3/2564 อาจหดตัวลงราว 5-10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ที่เฉลี่ยอยู่ที่ราว 2,000 ล้านบาทต่อเดือน

แม้ว่าในปัจจุบันยอดการส่งออกสินค้าทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ สินค้าเกษตร ยังมีทิศทางการขยายตัวที่ดี เป็นอีกปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการรถบรรทุกเพื่อการขนส่งยังคงมีอยู่ และรถบรรทุกใหม่ยังคงขาดตลาดเพราะการผลิตและประกอบที่ล่าช้า ส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถโอนรถได้จำนวนมาก โดยหากว่าภาครัฐเร่งปูพรมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง ลดยอดการติดเชื้อรายใหม่ลง คาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ และการโอนรถในไตรมาส 4/2564 จะสามารถชดเชยในส่วนของไตรมาส 3/2564 ที่ชะลอตัวลงได้

*คงเป้ายอดปล่อยสินเชื่อ

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ ปี 2564 นี้ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 24,000 ล้านบาท และยังคงเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อคงค้างสิ้นปี 2564 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50,000 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกขนาดพอร์ตอยู่ที่ประมาณ 47,228.60 ล้านบาท และคาดว่า ณ สิ้น 6 เดือนแรกของปีนี้มูลค่าพอร์ตสินเชื่อคงค้างจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 49,000 ล้านบาทแล้ว ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บริษัทคาดว่าจะยังคงความสามารถในการดูแลให้ต่ำกว่า 4% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการดูแลและช่วยเหลือลูกหนี้ตามความเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเข้าใจว่าด้วยการวิกฤติโรคระบาดส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ไม่เสถียรและยังคงมีความไม่แน่นอน แต่บริษัทคาดว่าอาจเป็นในระยะสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากความต้องการขนส่งที่ยังคงขยายตัวทำให้มองว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วลูกหนี้จะกลับมาดำเนินธุรกิจและชำระหนี้ได้ตามปกติ ส่วน NPL มองว่าคงไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะปัจจุบันบริษัทยังคงมีการตั้งสำรองหนี้ไว้ในระดับที่ค่อนข้างสูง และมีการติดตามแบบเดือนต่อเดือน เพื่อป้องกันความเสี่ยง

*สินเชื่อเริ่มเห็นการฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง THANI ว่าประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ที่ 434 ล้านบาท (-2% จากปีก่อน, +2% จากไตรมาสก่อน) โดยกำไรสุทธิหดตัวจากปีก่อนจากค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ได้รับการชดเชยบางส่วนจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ปรับตัวลงตามต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ด้านกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเป็นผลของสินเชื่อที่ขยายตัว +3% หรือ +4% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ตามยอดขายรถบรรทุกในประเทศที่เพิ่มขึ้น (5M21 ขยายตัวที่ +61% จากปีก่อน)

ทั้งนี้คงกำไรสุทธิปี 2564  ที่ 1.9 พันล้านบาท (+2% จากปีก่อน) และปี 2565 ที่ 2.2 พันล้านบาท (+17% จากปีก่อน) จากสินเชื่อที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นปีละ 6-12% จากปีก่อน ตามการขยายตัวของธุรกิจ Logistic และต่อเนื่องปี 2565 ที่ได้รับผลบวกจากการลงทุนของภาครัฐ และเอกชนที่เพิ่มขึ้นหลัง COVID-19

อย่างไรก็ตามคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 6.00 บาท จากผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวปี 2564-2565 EPS CAGR +9% โดยเป็นผลของสินเชื่อที่จะกลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2565 ตามสภาพการลงทุน และเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้น รวมทั้งราคาปัจจุบันยังมีความน่าสนใจเทรดต่ำเพียง PBV ปี 2565 ที่ 2.1 เท่า

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1