ทันหุ้น – โบรกส่องเทรนด์ลงทุนครึ่งปีหลัง พบกลุ่มเครื่องมือแพทย์มาแรง ชู SMD-WINMED น่าสน พร้อมให้น้ำหนักลงทุน SMD มากกว่า หลังเครื่องช่วยหายใจดีมานด์ล้น คาดผลงานทั้งปีโตโดดเด่น ขณะที่ WINMED รับอานิสงส์จากการนำเข้าสินค้าตรวจโควิด-19 Rapid Test

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า หุ้นขนาดเล็กน่าสนลงทุนครึ่งปีหลัง 2564 คือกลุ่มการจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงในปัจจุบัน ฝ่ายวิเคราะห์ชอบ บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD และ บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED

SMD ดีมานด์ล้น

สำหรับ SMD ประกอบธุรกิจและจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อาทิ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด เป็นต้น ประกอบกับปัจจุบันความต้องการเครื่องช่วยหายใจมีความต้องการสูง จากทั้งโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลสนามที่มีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรอรับการรักษาจำนวนมาก

ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินผลประกอบการ SMD ปี 2564 ตั้งแต่ต้นปี 2564 รายได้จะเติบโต 15% แตะที่ระดับ 744 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโต 14% หรือมีกำไรสุทธิ 89 ล้านบาท ขณะที่ทิศทางการแพร่ระบาดโควิด-19มากขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นมา ดังนั้นเชื่อว่ารายได้การจำหน่ายเครื่องช่วยหายใจมีแนวโน้มจะเติบโตสูงขึ้น และคาดว่าจะส่งผลดีให้กับ SMD ต่อเนื่องมายังไตรมาส 3 และ 4/2564

อีกทั้งมีโอกาสที่รายได้ SMD จะเติบโตได้สูงกว่าประมาณการ ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์จึงอยู่ระหว่างรอปรับประมาณการทั้งปี 2564 ใหม่ ภายหลังประกาศงบไตรมาส 2/2564 รวมถึงราคาเป้าหมาย จากเดิมให้ราคาเป้าหมาย SMD ไว้ที่ 10 บาท

WINMED รับอานิสงส์

ส่วน WINMED คาดเป็นไปได้สูงที่จะได้รับอานิสงส์จากการนำเข้าสินค้าตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Rapid Test)ซึ่งเป็นไปตามความต้องการตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเอง ซึ่งสินค้าเหล่านี้จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย เพราะสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน

ด้านธุรกิจเดิม หรือการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับธนาคารเลือด และการตรวจรักษามะเร็งปากมดลูก ปัจจุบันอาจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ความต้องการสินค้าดังกล่าวลดลง แต่หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ คาดการจำหน่ายสินค้าเดิมจะมียอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสินค้านวัตกรรมใหม่ที่ WINMED นำมาจำหน่าย ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินรายได้ WINMED ปี 2564 จะเติบโต 15% หรือมีรายได้ที่ 640 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเติบโต 21% หรือมีกำไรสุทธิที่ 64 ล้านบาท

SMD โดดเด่น

นางสาววิลาสินี กล่าวต่อว่า หากประเมินทิศทางธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทแล้ว ฝ่ายวิเคราะห์ชอบและให้น้ำหนักการลงทุน SMD มากกว่า เพราะสินค้าตรงตามความต้องการใช้ในโรงพยาบาล และมีความต้องการสูง โดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจ ขณะเดียวกันคาดว่าทิศทางผลประกอบการ SMD ทั้งปี 2564 จะเติบโตโดดเด่น

ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ความต้องการเครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดโรงพยาบาลสนามมีความต้องการสูงขึ้น 5 เท่า ซึ่งเป็นไปตามจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ผู้ป่วยโควิด-19 แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 คือผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ระดับที่ 2 คือผู้ติดเชื้อที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ระดับที่ 3 คือผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ และระดับที่ 4 คือผู้ติดเชื้อขั้นวิกฤติ

ออเดอร์ไหลเข้า

สำหรับทิศทางความต้องการใช้เครื่องช่วยหายใจ คือกลุ่มผู้ป่วยระดับที่ 3 และ 4 ส่วนเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดส่วนใหญ่จะใช้กับผู้ป่วยที่รับการรักษาในโรงพยาบาลสนาม สำหรับแนวโน้มคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ปัจจุบันถือเป็นออเดอร์มากที่สุด จากที่ SMD ประกอบธุรกิจมา 10-20 ปี ทั้งนี้ไตรมาส 3/2564 บริษัทมีออเดอร์ หรือ Backlog แล้ว 300 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเข้าเครื่องช่วยหายใจและเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1