ทันหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือSCBS ระบุว่า SCGP รายงานกำไรสุทธิ 2Q64 จำนวน 2.3 พันลบ. +19% YoY และ +6% QoQ ดีเกินคาด เพราะยอดขายสูงกว่าคาด ด้วยเหตุนี้จึงปรับประมาณการกำไรปี 2564-65 ของ SCGP เพิ่มขึ้น 3% และคาดว่ากำไรปกติ 3Q64 จะปรับตัวดีขึ้น YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น ปริมาณการขายที่เพี่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตในโครงการที่สร้างเสร็จและมีรายได้แล้ว (brownfield)

อีกทั้งดีล M&P (Sovi, Go-Pak และ Duy Tan) การเข้าซื้อหุ้นของ Intan และ Deltalab เสร็จใน 3Q64จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นลำดับถัดไป เรายังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ SCGP ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อ้างอิงวิธี DCF ที่ปรับใหม่เป็น 70 บาท (จาก 67 บาท)

กำไรสุทธิ 2Q64 อยู่ที่ 2.3 พันลบ. +19% YoY และ +6% QoQ สูงกว่าประมาณการของ SCBS อยู่ 16% และสูงกว่าประมาณการของตลาดอยู่ 9% โดยเกิดจากยอดขายที่สูงกว่าคาด หากตัดขาดทุนพิเศษจำนวน 24 ลบ. (ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการขยายธุรกิจแบบ M&P มีจำนวนมากกว่ากำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน) ออกไป พบว่ากำไรปกติ 2Q64 อยู่ที่ 2.3 พันลบ. +57% YoY เนื่องจากยอดขายที่ดีขึ้นช่วยชดเชยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง แต่ทรงตัว QoQ SCGP ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 1H64 จำนวน 0.25 บาท/หุ้น (XD วันที่ 9 ส.ค.)

2Q64 ยอดขาย เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 38% YoY โดยการเติบโต 6%เกิดจากดีล M&P ใหม่ๆ (Sovi และ Go-Pak) และการเติบโต 32%เกิดจากการดำเนินธุรกิจปกติอันเป็นผลมาจากปริมาณการขายและราคาขายที่สูงขึ้น รายได้จากสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรเติบโต 37% YoY ในขณะที่รายได้จากสายธุรกิจเยื่อและกระดาษเติบโต 45% YoY ปริมาณการขายเติบโต YoY ในประเทศหลักๆ ทุกประเทศ (ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการซื้อภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการส่งออกจากอาเซียนไปยังสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น

ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณการขายจากดีล M&P และการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโครงการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซียในเดือนเม.ย. ปริมาณการขาย 2Q64 ของ SCGP (ก่อนตัดรายการบัญชีระหว่างส่วนงาน) จึงเติบโต 16% YoY สำหรับกระดาษบรรจุภัณฑ์ (53% ของยอดขาย), 33% YoY สำหรับบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ (24% ของยอดขาย), 3% YoY สำหรับบรรจุภัณฑ์จากพอลิเมอร์ (6% ของยอดขาย) และ 7% YoY สำหรับสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ (16% ของยอดขาย)

ราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นตามราคากระดาษบรรจุภัณฑ์และเยื่อในภูมิภาคที่ปรับตัวสูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 20.6 % -70bps YoY โดยเกิดจากมาร์จิ้นที่ลดลงในสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (จากต้นทุนค่าระวาง RCP และเม็ดพลาสติกที่สูงขึ้น) ซึ่งไปหักล้างมาร์จิ้นที่ฟื้นตัวดีขึ้นในสายธุรกิจเยื่อและกระดาษ (มาร์จิ้นจาก Go-Pak สูง ราคาเยื่อกระดาษปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากความต้องการเยื่อกระดาษเพื่อใช้ในการผลิตกระดาษชำระและเครื่องนุ่งห่มฟื้นตัวดีขึ้น ความต้องการกระดาษพิมพ์เขียนปรับตัวดีขึ้นจากฐานต่ำของปีก่อน)

ความต้องการบรรจุภัณฑ์จะยังคงได้รับการสนับสนุนจากการบริโภคของผู้บริโภคและการส่งออกจากอาเซียนไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่ฟื้นตัวดีขึ้น SCGP คาดว่าค่าระวางเรือในปีนี้จะยังอยู่ในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี SCGP ทำสัญญาซื้อถ่านหินที่บริษัทต้องใช้ไว้ล่วงหน้าแล้ว (ส่วนใหญ่ในปี 2564) สำหรับการขยายกำลังการผลิตตามแผนงาน SCGP ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตสำหรับโรงงานกระดาษบรรจุภัณฑ์แห่งใหม่ในอินโดนีเซีย (เริ่มเดินเครื่องในเดือนเม.ย.) สู่ 70% ในสิ้นปีนี้ และจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์กำลังการผลิตเพิ่มเติมในส่วนของบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศไทยและเวียดนามใน 3Q64, กระดาษบรรจุภัณฑ์ในฟิลิปปินส์ และบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวในประเทศไทยใน 4Q64 สำหรับดีล M&P ใหม่ SCGP จะแสดงเงินลงทุนใน Duy Tan ในงบการเงินรวมในเดือนส.ค. และตั้งเป้าทำ M&P เพื่อเข้าถือหุ้นใน Intan และ Deltalab เสร็จใน 3Q64

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1