ทันหุ้น - ETC ส่งสัญญาณครึ่งหลังปี 2564 ฟอร์มแจ่ม เก็บเกี่ยวค่าไฟตุนพอร์ต พร้อมดีล M&A โรงไฟฟ้าไบโอแก๊ส-ไบโอแมสเต็มพิกัด หวังขยายกำลังการผลิตเพิ่ม จากเดิมราว 20.9 เมกะวัตต์ แถมแจงโควิดที่เกิดขึ้นไม่กระทบการผลิตไฟฟ้า

นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี 2564 บริษัทคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก 2564 เนื่องจากธุรกิจมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับยังมีโอกาสได้รับงานออกแบบและก่อสร้างทางด้านวิศวกรรมโรงไฟฟ้ามาในช่วงที่เหลือปีนี้เพิ่มเติม

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 3 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้ารวมและติดตั้งประมาณ 20.9 เมกะวัตต์  โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.5 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี  จะช่วยสนับสนุนรายได้ของธุรกิจที่มั่นคงในระยะยาว

รุก M&A อัพฐานเพิ่ม

โดยโรงไฟฟ้าแห่งแรกคือ ETC กำลังการผลิตไฟฟ้า 9.4 เมกะวัตต์ (มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าปริมาณ 8 เมกะวัตต์) เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 (มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT 5.83 บาทต่อหน่วย) ส่วนแห่งที่ 2  คือโรงไฟฟ้า RH กำลังการผลิตไฟฟ้า 7 เมกะวัตต์  มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าปริมาณ 5.5 เมกะวัตต์) เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 (มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง 6.83 บาทต่อหน่วย) และโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3 คือ AVA กำลังการผลิตไฟฟ้า 4.5 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าปริมาณ 3 เมกะวัตต์ เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2562 (อัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง 6.83 บาทต่อหน่วย)

นายเอกรินทร์ กล่าวว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างการมองหาโอกาสเข้าไปควบรวมกิจการ (M&A) หรือเข้าไปรับงานออกแบบวิศวกรรมและติดตั้งโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่กำลังจะมีการประกาศผลเร็วๆ นี้ ซึ่งเบื้องต้นมองไว้ในส่วนของโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สและไบโอแมส คิดเป็นกำลังผลิตรวมประมาณ 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าไบโอแมส อยู่ที่ 75 เมกะวัตต์, และไบโอแก๊ส อีก 75 เมกะวัตต์ เพื่อเสริมกำลังผลิตไฟฟ้าหรือสนับสนุนรายรับของธุรกิจเพิ่มเติม คาดได้เห็นความชัดเจนช่วงไตรมาส 4/2564

“หลังจากนี้หาทางภาครัฐมีการเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะและโครงการพลังงานอื่นๆ เราคงจะมีการเข้าร่วมประมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคตต่อไป” นายเอกรินทรักล่าว

โควิดไม่กระทบธุรกิจ

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19 ที่เกิดขึ้นนั้นบริษัทมองไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน แม้ภาพของขยะอุตสาหกรรมที่จะใช้เป็นกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงแท่ง (RDF) ในตลาดจะปรับลดลง แต่บริษัทมีสัญญาการสั่งซื้อเชื้อเพลิงในส่วนดังกล่าวรองรับไว้ล่วงหน้าแล้ว และปัจจุบันโรงไฟฟ้าของ ETC ทั้ง 3 แห่งนั้นยังสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและสร้างรายได้ตามปกติ

สำหรับงบการเงินสิ้นไตรมาส 1/2564 บริษัทมีกำไรสุทธิ 44.54 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.63 ล้านบาท หรือคิดเป็นการขยายตัว 94.41% เนื่องจากบริษัทสามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจำนวน 13.29 ล้านหน่วย หรือคิดเป็น 8.34%เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกับปีก่อน ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการขายไฟฟ้าขยายตัวสูงขึ้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายบริหารลงได้ 9.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกับปีก่อน

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1