ทันหุ้น - ASW โชว์ Backlog กว่า 7,707.9 ล้านบาท เตรียมรับรายได้ปีนี้ 4,700 ล้านบาท และมีโครงการพร้อมอยู่อีกกว่า 18โครงการ สามารถสร้างรายได้ทันที เร่งเครื่องเปิดโครงการเพิ่มครึ่งปีหลัง 2564 อีก 5 โครงการ มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตระดับ 20%หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกมีรายได้แล้วกว่า 51%

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ผู้พัฒนาอสังหา เปิดเผยถึงแผนดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2564ว่าบริษัทเตรียมเร่งดำเนินโครงการหลังจากที่ต้องปิดแคมป์การก่อสร้างไปเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ปัจจุบันสามารถเข้าทำการได้ตามปกติ อีกทั้งได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเยี่ยมชมโครงการเป็นแบบออนไลน์ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า

โดยแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2564บริษัทเตรียมเปิดโครงการเพิ่มเติม โดยในช่วงไตรมาส 3/2564 ได้เเก่ 1.โครงการ Atmoz Bangna มูลค่า 2,239 ล้านบาท เเละ2.โครงการ Puripuri Home office มูลค่า 87 ล้านบาท ส่วนในไตรมาสที่ 4/2564 บริษัทเตรียมเปิด 3.โครงการ Kave AVA มูลค่า 2,366 ล้านบาท ,4. โครงการ Modiz Cloud Ramkhamheng มูลค่า 3,668ล้านบาท เเละ 5.โครงการใน Sriracha มูลค่า 1,260 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 7,707.9ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปี 2564 ราว 4,700 ล้านบาท โดยจะมี 2โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ ในไตรมาส 3 ได้แก่ "เคฟ ทียู" (Kave TU)มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท มียอดขายกว่า 90% และ "โมดิซ สุขุมวิท 50" (Modiz Sukhumvit 50) มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2564

นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการพร้อมอยู่ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทันทีอีกกว่า 18โครงการ ซึ่งจะสามารถเข้ามาสนับสนุนยอดขายให้มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลงานในปี 2564 สามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

รายได้โต 20%

ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่ามีรายได้ปี 2564 จะเติบโตระดับ 20% หรือไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,205 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,281.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.8% เเละมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 578.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.7% จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากลูกค้ามั่นใจในโครงการของบริษัท และโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทออกโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์หลากหลายเพื่อกระตุ้นการโอนกรรมสิทธิ์ โดยรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์จากแบรนด์ Kave เป็นสัดส่วน 63% แบรนด์ Atmoz 22 % แบรนด์ Modiz 3% ตามลำดับ ส่วนที่เหลืออยู่ในแบรนด์อื่นๆ

บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจและการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น ได้มีการร่วมมือกับบริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาและลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดธุรกิจและสามารถปรับตัวสู่นวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

ปันผลหุ้น-เงินสด

อย่างไรก็ดีคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นหุ้นและเงินสด โดยมีสัดส่วนจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และการจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.02206 บาท เป็นเงิน 16,787,660 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 4 ตุลาคม 2564