ทันหุ้น - TASCO คาดยอดขายยางมะตอยไตรมาส 3/2564 แตะ 3 แสนตัน ใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้า แม้เข้าโลว์ซีซัน เตรียมรับค่าสินไหมกรณีเพลิงไหม้โรงกลั่นงวดสุดท้าย พร้อมลุยไตรมาส 4/2564 เข้าไฮซีซัน โครงการภาครัฐ-ตลาดต่างประเทศหนุน มั่นใจปริมาณขายยางมะตอยสิ้นปี 2564 ที่ 1.25 ล้านตันตามเป้า

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยปริมาณการขายในช่วงไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 3 แสนตัน ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2564 แม้ว่าตามปกติไตรมาส 3 จะเป็นช่วงโลว์ซีซันของการขายในประเทศ ทั้งนี้บริษัทเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจก่อสร้างถนน บริษัท ไทยสเลอรี่ ซิล จำกัด (TSS) จากสัดส่วน 25% เป็น 62.50%ส่งผลให้บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดของยางมะตอยชนิดต่างๆ ในประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น

Q4 เข้าโค้งไฮซีซัน

คาดว่ายอดขายยางมะตอยในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/2564ซึ่งเข้าสู่ช่วงต้นของไฮซีซัน ตามการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2565 ของภาครัฐ ซึ่งในปีนี้ภาครัฐเดินหน้างานได้ค่อนข้างรวดเร็วกว่าในอดีต ทำให้งบต่างๆ กระจายลงไปในส่วนโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ได้เร็ว โดยเฉพาะในงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงถนน คาดว่าการจัดสรรงบจะมีความชัดเจนในช่วงเดือนตุลาคม และเริ่มดำเนินงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

ทางด้านกลุ่มธุรกิจก่อสร้างที่บริษัทเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมนั้น มองว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนธุรกิจได้ดีแม้ในสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่อาจไม่เอื้ออำนวย รวมถึงจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับธุรกิจได้เพิ่มขึ้น เพราะด้วยการมีมาร์เก็ตแชร์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนกรณีที่รัฐบาลให้กลุ่มก่อสร้างปิดแคมป์คนงานนั้น บริษัทได้รับผลกระทบเฉพาะในงานโครงการก่อสร้างรันเวย์ 3 ที่สนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ในส่วนการก่อสร้างถนน และซ่อมบำรุง ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ

ส่วนภาพรวมยอดขายตลาดต่างประเทศ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์การดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2564บริษัทจะเน้นเลือกตลาดที่เป็นรีเทลเป็นหลัก โดยเจาะเข้าไปในตลาดที่บริษัทมีโรงงาน หรือมีคลังอยู่ในประเทศต่างๆ และเลือกขายประเทศที่ให้ราคาดี โดยเฉพาะที่ตลาดประเทศเวียดนาม จีน ออสเตรเลีย มาเลเซีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีโอกาสที่จะขยายเข้าไปในตลาดอินโดนีเซีย และลาว เพิ่มเติม เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวยังคงมีความต้องการใช้ยางมะตอยเกรดพรีเมียมอีกมาก

คงยอดขาย 1.25 ล้านตัน

สำหรับภาพรวมทั้งปี 2564 นั้น บริษัทยังคงเป้าหมายปริมาณการขายไว้ที่ 1.25 ล้านตัน ปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 1.75 ล้านตัน โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 6.4 แสนตัน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่าจะย่อตัวลงกว่าเมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับราคา 70-78 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งในเดือนสิงหาคมราคาน้ำมันดิบค่อยๆ ไต่ระดับลงมาได้บ้างแล้ว อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่าต้นทุนราคาน้ำมันดิบในปีนี้ค่อนข้างสูง

ส่วนงบลงทุนปีนี้บริษัทได้ปรับลดงบลงทุนลงเหลือ 900ล้านบาท จากเดิมที่ 1,200 ล้านบาท จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อรับเงินค่าสินไหมทดแทนงวดสุดท้ายจากบริษัทประกันภัยเพื่อชดเชยกรณีเพลิงไหม้ถังเก็บน้ำมันโรงกลั่นในประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2562คาดว่าจะได้รับเงินงวดสุดท้ายภายในช่วงไตรมาส 3/2564 แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเม็ดเงินที่ได้รับมานั้นจะมีมูลค่าอยู่ที่เท่าไหร่ ที่ผ่านมาบริษัทได้รับเงินดังกล่าวเข้ามาแล้วทั้งสิ้น 767 ล้านบาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1