ทันหุ้น – DDD แย้มผลงานไตรมาส 4/2564 ยอดขายฟื้นตัว จากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ชูตลาดฟิลิปปินส์ยอดขายไตรมาส 3/2564 ยังเติบโตได้ดีจากช่องทางออนไลน์ มั่นใจรายได้ปีนี้มีโอกาสเติบโต 20-30% เมื่อเทียบกับก่อนที่มีรายได้รวมกว่า 1,49 ล้านบาท เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับสุขภาพเพิ่ม และสินค้ากัญชงกัญชา ในช่วงปี 2565
นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 ยอดขายจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ตามการกระจายวัคซีน และคาดว่าภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะฟื้นตัวตามนโยบายรัฐ ซึ่งจะกระตุ้นยอดขายจากกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ฟื้นตัว
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายช่องทางการขาย การออกผลิตภัณฑ์ และการปรับขนาดผลิตภัณฑ์ เช่น แบรนด์ SOS ที่เป็นแบรนด์ได้รับความนิยมกลุ่มวัยรุ่นเกาหลี และ ญี่ปุ่น ซึ่งปกติแล้วราคาจะเฉลี่ย 200-300 บาท จึงปรับขนาดลงจาก 50 มิลลิลิตร ลงเหลือ 25-30 มิลลิลิตร เพื่อกระตุ้นยอดขายควบคู่กับการทำให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ซึ่งแผนรองรับด้านกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง
นอกจากนี้บริษัทมีแผนออกสินค้าใหม่ ที่เลื่อนการเปิดตัวมาจากไตรมาส 2/2564 เนื่องจากเป็นช่วงตลาดชะลอตัว เช่น ผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นปากและลำคอที่มีส่วนผสมของฟ้าทะลายโจร และสินค้าด้านสุขภาพ โปรไบโอติก Ginger plus shot และผลิตภัณฑ์ดูแลผม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการในเทรนด์ปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคสนใจเรื่องสุขภาพมากกว่าความสวยงาม นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี 2564 และ ต้นปี 2565 เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับกัญชงกัญชาเพิ่มเติมด้วย
*ตลาดฟิลิปปินส์โตดี
สำหรับตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 ยอดขายยังเติบโตได้ดี แม้ยอดผู้ติดเชื้อจะสูงกว่าประเทศไทย ซึ่งผู้บริโภคในฟิลิปปินส์มีพฤติกรรมใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้ช่วงเทศกาล Shopping 6.6 และ 7.7 แบรนด์ของบริษัทติดอันดับผลิตภัณฑ์ขายดีทุกรายการทั้งสเนลไวท์ และ OXECURE ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่ 20% ของรายได้รวม
นอกจากนี้บริษัทยังเจาะตลาด แบรนด์สปาร์คเคิล ทั้งยาสีฟันแปรงสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ดังนั้นภาพรวมผลการดำเนินงานของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่า ยอดขายจะยังเติบโตได้ 20-30% เมื่อเทียบกับปี 2563
*รายได้เติบโต 20-30%
อย่างไรก็ตามบริษัทยังมั่นใจว่า รายได้ปีน้จะเติบโต 20-30% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 1,490.62 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะเน้นการบริหารต้นทุน ในการลดค่าใช้จ่ายโดยรวม อาทิ การลดค่าเช่าคลังสินค้า เเละบริหารขนส่งในแต่ละกลุ่มธุรกิจมาไว้ที่เดียวกัน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 และเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 4/2564 ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรจากการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 เป็นต้นไป
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม