> SET > STEC

16 กันยายน 2021 เวลา 11:06 น.

STEC ชี้จุดเปลี่ยนลงทุนSTPI โครงการใหญ่ยก-เซฟผู้ถือหุ้น

ทันหุ้น – บิ๊ก STEC แจงเหตุไม่ลงทุน STPIเพราะสถานการณ์เปลี่ยนทั้งเรื่อง เศรษฐกิจ โครงการภาครัฐ ทำให้ต้องรอบคอบในการลงทุน ชี้รักษาผลประโยนช์ให้ผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญระบุครึ่งหลังของปียังเดินหน้าลงนามสัญญางาน รักษาระดับมูลค่างานในมือไว้ที่แสนล้านบาทต่อเนื่อง


นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เปิดเผยเกี่ยวกับ กรณีที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ STEC ไปร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า STEC ไม่ทำตามมติผู้ถือหุ้น และทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเสียหายว่า การขอมติผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 และได้รับการอนุมัติในการเข้าซื้อบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI ณ เวลานั้น STEC พิจารณาเห็นว่า STECมีงานในมือที่เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือเครื่องจักร ซึ่งตรงกับธุรกิจของ STPI ประกอบกับ ณ ช่วงเวลาดังกล่าวรัฐบาลมีแนวโน้มควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้จนแนวโน้มผู้ติดเชื้อจะลดลงเป็นศูนย์ในบางวัน


อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเนื่อง จนแพร่เข้าสู่กลุ่มแรงงานก่อสร้าง จนรัฐบาลต้องประกาศใช้มาตรการควบคุมสูงสุด มีการสั่งหยุดงานก่อสร้าง ปิดแค้มป์คนงาน ประกอบกับมีปัจจัยในเรื่องการยกเลิกการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) รวมถึงมีแนวโน้มที่จะเลื่อนกำหนดการดำเนินงานโครงการ สนามบินอู่ตะเภา เมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่มีผลกับการรับรู้รายได้หลักๆ STEC ในอนาคตทั้งสิ้น


แจงเหตุผลไม่ลงทุน

ดังนั้น STECจึงเร่งศึกษาผลกระทบอย่างจริงจัง รวมถึงพิจารณาปรับแผนการลงทุนของ STECและได้พิจารณาแล้วว่า ในสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น การลงทุนวงเงินเกือบ 700 ล้านบาทใน STPI จะกดดัน “ความคุ้มค่าในการลงทุน” ให้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมกันนี้ ชี้แจงว่า ในฐานะผู้บริหารได้ขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงิน และที่ปรึกษาด้านกฏหมายอย่างรอบคอบแล้ว


“เมื่อสถานการเปลี่ยน แผนการรับรู้รายได้เปลี่ยน สภาพเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมก่อสร้างเปลี่ยน แน่นอนครับสมมุติฐานในการคำนวณผลตอบแทนก็ต้องเปลี่ยน การลงนามในสัญญาซื้อขายของเราก็ยังไม่มี เราวิเคราะห์ความเสี่ยงทุกด้าน ทั่งการเงิน operation, legal แล้วเห็นว่าการไม่เข้าทำคือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบริษัท และเป็นการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกคนเป็นที่ตั้ง”


พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า “ประธานตรวจสอบ” ของ STEC มีความเกี่ยวพันกับบริษัท ซี.เจ. มอร์แกน จำกัด (CJ morgan) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน นั้นทาง STECได้ตรวจสอบแล้วพบว่าท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันหรือถือหุ้นใน CJ Morgan แต่อย่างใด เนื่องจากท่านออกจาก CJ Morgan และไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวมาประมาน 6 ปี

“ท่านและกรรมการที่เป็นกรรมการร่วมอีก 3 ท่าน ก็ไม่มีสิทธิในการลงมติและไม่ได้อยู่ในที่ประชุมในการลงมติวาระนี้”


รักษางานในมือแสนล.

นายภาคภูมิ กล่าวว่า STEC ยังคงมองหาโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีงานประมูลที่ทราบผลผู้ชนะแล้ว รอประกาศอย่างเป็นทางการ และลงนามสัญญา ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่ STEC เข้าประมูลร่วมกับ CKและเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด 2 สัญญา, โครงการระบบบำบัดน้ำเสียของ กทม.ที่เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด


รวมถึงงานโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี มูลค่างาน 2.5 พันล้านบาท, โครงการลงทุนดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M) มอเตอร์เวย์ เส้นบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) และ เส้นบางปะอิน-นครราชสีมา ที่มีงานก่อสร้างสัญญาละ 4-5 พันล้านบาท ซึ่ง STEC จะดำเนินงานร่วมกับพันธมิตร ประกอบด้วย BTS, GULF, และ RATCH จึงมั่นใจว่าจะรักษาปริมาณงานในมือไว้ที่ระดับ 1 แสนล้านบาทได้อย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันบริษัทมีงานในมืออยู่ที่กว่า 8 หมื่นล้านบาท เป็นงานภาคเอกชน 50-60% ส่วนอีก 40-50% เป็นงานภาครัฐ”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X