ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองรัฐบาลไทยเปิดตัวโครงการ “We Travel Together” (ระยะที่ 3) อีกครั้ง มุ่งกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศในไตรมาส 4/64 โดยโครงการนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนธุรกรรม 2 ล้านรายการ ในรูปแบบของโครงการคนละครึ่งสูงสุด 40% ของจำนวนเงินที่ใช้ไปกับการจองโรงแรม ค่าอาหาร และค่าตั๋วเครื่องบิน คนไทยที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนที่มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2565 สำหรับการจองโรงแรม รัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนสูงสุด 3,000 บาทต่อวันต่อคน สำหรับค่าอาหารสูงสุด 600 บาท ต่อวันต่อคน และสำหรับการเดินทางทางอากาศ สูงสุด 2,000 บาทต่อเที่ยว สำหรับแพคเกจทัวร์ รัฐบาลจะอุดหนุน 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน

**หนุนอัตราเข้าพักในไตรมาส 4/64 

ในขณะที่รัฐบาลไทยวางแผนเปิดประเทศในไตรมาส 4/64 เชื่อว่าจำนวนผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศยังคงอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากประเทศต้นทางหลายประเทศยังคงต้องการกักตัวนักท่องเที่ยวเมื่อเดินทางกลับ รวมถึงจีนซึ่งคิดเป็น 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 ดังนั้น ในความเห็นของฝ่ายวิจัย แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวผ่านการเดินทางภายในประเทศจึงสมเหตุสมผล ในส่วนของรายได้ ERW มีรายได้สูงสุดหรือ 92% ของรายได้ปกติจากกลุ่มโรงแรมในประเทศไทย รองลงมาคือ AWC 60%, CENTEL 38% และ MINT 21% AOT ยังเป็นผู้รับผลประโยชน์โดยตรงกับทุกธุรกิจในการท่องเที่ยวในประเทศไทยและคาดได้รับอานิสงส์จากการอุดหนุนค่าตั๋วเครื่องบินด้วย

**เริ่มเปิดประเทศตั้งแต่ Q4/64 เป็นต้นไป 

รัฐบาลมีแผนจะเปิดประเทศส่วนใหญ่ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป แม้ว่าไทม์ไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดกรุงเทพฯ จะเลื่อนไปจากเดือนตุลาคมไปพฤศจิกายน เรามองว่าการเปิดพรมแดนครั้งนี้ส่งผลทางจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นการท่องเที่ยวของไทย แม้ว่าการฟื้นตัวในไตรมาส 4/64 อาจอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงสูง (แม้ว่าจะลดลง) ซึ่งส่งผลให้มีการกักตัวอย่างเข้มงวดจากประเทศต้นทาง เราเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป

**AOT รับอานิสงส์เต็มๆ ถือเป็นหุ้นเด่น 

ฝ่ายวิจัยเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแผนการเปิดประเทศของรัฐบาลน่าจะช่วยให้การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายรออยู่ และเชื่อว่าการราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยการฟื้นตัวของภาคส่วนนี้แล้ว เลือก AOT (WACC 6% เติบโต 2.7%) เป็นหุ้นเด่น เนื่องจากสถานะผูกขาดในธุรกิจท่าอากาศยานไทยและเป็นประตูสู่ประเทศไทย รายได้ระยะยาวของบริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากสัมปทานปลอดภาษีเพิ่มเติม (รายได้เพิ่ม 1.88 หมื่นล้านบาทในปี 66 เมื่อพื้นที่ปลอดภาษีแห่งใหม่เสร็จสมบูรณ์) จากคิง เพาเวอร์ ที่ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของผู้โดยสารระหว่างประเทศ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1