ทันหุ้น – รฟม.เปิดร่างประกาศทีโออาร์การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ราคากลาง 7.8 หมื่นล้านบาท พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นถึง 4 ตุลาคม 2564 ให้เอกชนเตรียมความพร้อมยื่นซองประกวดราคาภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 หวังได้ผู้ชนะและเซ็นสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ด้านนักวิเคราะห์ชี้รัฐบาลเร่งประมูลเติมปริมาณงานในมือตั้งแต่ปี 2565 เลือก STEC-CK-PYLON-SEAFCO รับเต็ม

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ได้เผยแพร่ร่างประกาศ และร่างเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โดยวิธีประกวดราคานานาชาติ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 4 ตุลาคม 2564 โดยเปิดให้ผู้สนใจสามารถแนะนำ วิจารณ์ หรือแสดงความคิดเห็นภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2564

ลักษณะงานโดยสังเขป คือ งานก่อสร้างช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) แบ่งเป็น 6 สัญญา ระยะทางประมาณ 23.6 กิโลเมตร มี 10 สถานีใต้ดิน ระยะทาง 13.6 กิโลเมตร และ 7 สถานียกระดับ ระยะทาง 10.0 กิโลเมตร รวม 17 สถานี ประกอบด้วย งานโครงการยกระดับ งานโครงการใต้ดิน งานศูนย์ซ่อมบำรุง อาคารจอดแล้วจร งานระบบราง โดยราคากลางของงานจ้างก่อสร้างในการประกวดราคาครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 78,712,455,201.71 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว)

*เปิดขายซองต.ค.นี้

เบื้องต้น รฟม. มีกำหนดจะเปิดขายร่างเอกสารประกวดราคานานาชาติภายในเดือนตุลาคม 2564 จากนั้นจะให้เอกชนเตรียมความพร้อมยื่นเอกสารประกวดราคาภายในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2564 และจะเริ่มประเมินข้อเสนอของภาคเอกชนภายในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งทาง รฟม.จะเร่งรัดกระบวนการเจรจาต่อรองให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน เพื่อให้ได้ผู้ชนะการประมูล เสนอต่อคณะรัฐมนตรี และลงนามสัญญาภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เพื่อให้เอกชนสามารถเริ่มดำเนินงานก่อสร้างได้ภายในปี 2565 โดยมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2570

สำหรับ ภาคเอกชนซื้อซองเอกสารประกวดราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ 9 ราย เป็นผู้รับเหมาไทย 6 ราย และต่างชาติ 3 รายนั้น รฟม.ได้สงวนสิทธิ์ในการรับเอกสารประกวดราคาใหม่โดยไม่ต้องชำระเงินเพิ่ม

*เพิ่มงานในมือกลุ่มรับเหมา

นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด  (มหาชน)กล่าวว่า โดยภาพรวมผลการดำเนินงานกลุ่มรับเหมาก่อสร้างทั้งปี 2564 มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19, รวมถึงการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลเร่งนำโครงการขนาดใหญ่ออกมาประมูลอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการรถไฟทางคู่, โครงการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง สัญญา 1, สัญญา 3 รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) เป็นต้น

ขณะเดียวกัน เอกชนในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างยังมีงานอื่นๆ ที่อยู่ในไพพ์ไลน์ (Pipeline) รอดำเนินการ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการเมืองการบินภาคตะวันออก สนามบินอู่ตะเภา, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป.ลาว ฯลฯ ซึ่งโครงการเหล่านี้จะเข้ามาเพิ่มปริมาณงานในมือ (Backlog) ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มรับเหมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 เป็นต้นไป

*STEC-CK-SEAFCO เด่น

ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็น “กลาง” ต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างโดยเลือก STEC เป็น Top Pick ราคาเหมาะสม 21.47 บาท เนื่องจากงานที่มีมาร์จิ้นต่ำเสร็จสิ้นลงแล้ว ประกอบกับมีปริมาณงานในมือรองรับรายได้อย่างมั่นคง และแนะนำ “ซื้อ” CK ราคาเหมาะสม 29.79 บาทโดยคาดหวังเป็นผู้ชนะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และได้งานบางสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้, PYLON ราคาเหมาะสม 5.49 บาท, SEAFCO ราคาเหมาะสม 5.28 บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1