ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ หุ้น บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ลงทุน 50% ในบริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด (THCG) เพื่อขยายธุรกิจกัญชงและกัญชา เป็นจำนวนเงิน 250 ลบ. ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-66 ขึ้น 12%/4% จากโอกาสที่ธุรกิจกัญชงจะประสบความสำเร็จสูงขึ้นเป็น 70% จากเดิม 50% และส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุน คงคำแนะนำ “ถือ” แต่เพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5.60 บาท คาดการขยายกำลังผลิตและยอด backlog งาน EPC ที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ

ทั้งนี้ GUNKUL ร่วมลงทุนใน THCG GUNUKL ลงทุนทางอ้มมผ่านการซื้อหุ้นสามัญจำนวน 50% ของบริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด (THCG) โดยเป็นการเพิ่มเงินทุนในรูปแบบของหุ้นบุริมสิทธิ (preferred share) ด้วยเงินลงทุนรวม 250 ลบ. ผ่านบริษัทย่อย จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป จำกัด (GKHG) GUNKUL ตั้งเป้าอัดฉีดเงินสดที่ 100 ลบ. เข้าไปในบริษัทร่วมทุน JV ในปี 2564 และอีก 150 ลบ. ในปี 2565 และอาจพิจารณาอัดฉีดเงินสดเข้าไปใน THCG อีกสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต

ธุรกิจของ THCG ลงทุนในสินทรัพย์และให้ค้าปรึกษากับธุรกิจการเพาะปลูกและการจัดจำหน่ายกัญชงและกัญชา รวมถึงการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกัญชงและกัญชา อีกทั้งยังเป็นคู่สัญญากับภาครัฐและเอกชน THCG มีโครงการที่ได้รับใบอนุญาตและกำลังดำเนินการอยู่ ได้แก่ โครงการแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โครงการเขาค้อ และโครงการหล่มเก่าใน จ.เพชรบูรณ์ THCG มีบริษัท ไทยสติ๊คเฮิร์บ จำกัด (TSH) เป็นบริษัทย่อยซึ่งดำเนินธุรกิจเพาะปลูก ผลิต แปรรูป วิเคราะห์ ครอบครอง นำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์สมุนไพรหลายประเภท

คาดประโยชน์ที่จะได้จากการลงทุนใน THCG การลงทุนใน THCG คาดจะส่งผลบวกต่อ GUNKUL จาก 1) การขยายธุรกิจสู่ธุรกิจกัญชาซึ่งทาง THCG ดำเนินธุรกิจทั้งต้นน้ำ (เพาะปลูก) กลางน้ำ (สกัดสาร THC&CBD) และปลายน้ำ  (ผลิตภัณฑ์สุดท้าย) ปัจจุบัน GUNKUL ดำเนินธุรกิจสวนกัญชงและสกัดสาร CBD ผ่านบริษัทย่อย 2) การขยายพื้นที่ปลูกกัญชง THCG มีสวนกัญชงในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือและกลางตอนเหนือของประเทศ ได้แก่ เพชรบูรณ์ ลำพูน และเชียงใหม่ ในขณะที่เฟสแรกทาง GUNKUL มีแผนที่จะปลูกกัญชง 100-200 ไร่ในพื้นที่ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ (จ.นครราชสีมา) 3) การขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจปลายน้ำของกัญชงและกัญชาซึ่งรวมถึงการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องสำอางและการแพทย์  และ 4) โอกาสสร้างประโยชน์จากการทางานร่วมกันระหว่างกลุ่มธุรกิจ โดย GUNKUL สามารถใช้โรงสกัดสาร THC และ CBD จากกัญชาและกัญชาได้

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ขึ้น 12%/4% ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ขึ้น 12%/4% เป็น 2.8 พันลบ./2.9 พันลบ. เพราะ 1) ปรับเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธุรกิจกัญชงจะประสบความสำเร็จสูงขึ้นเป็น 70% จากเดิม 50% สาเหตุที่มีมุมมองบวกมากขึ้น ก็เพราะ GUNKUL ได้รับใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อเดือน ต.ค.2564 และ 2) ฝ่ายวิจัยรวมส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนกับ THCG มูลค่า 100 ลบ.ต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับคาดการณ์ของผู้บริหารในประมาณการของฝ่ายวิจัยแล้ว

คงคำแนะนำ “ถือ” แต่เพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5.60 บาท คงคำแนะนำ “ถือ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5.60 บาท จากเดิม 4.62 บาท เพื่อสะท้อน 1) มูลค่าที่เพิ่มขึ้น 0.58 บาท จากความเป็นไปได้ที่ธุรกิจกัญชงจะประสบความสำเร็จ 2) มูลค่าที่เพิ่มขึ้น 0.37 บาท จากการร่วมทุน JV กับ THCG ด้าน upside risk ที่สำคัญต่อคำแนะนำของของฝ่ายวิจัย คือ 1) การขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าเนื่องจากบริษัทฯ กำลังมองหาโอกาสในการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศและ 2) ยอด backlog งาน EPC ที่สูงขึ้น และ 3) ความสำเร็จของธุรกิจกัญชง

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1