ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย จำกัด คงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับนักลงทุนระยะยาว ปรับฐานราคาเป้าหมายไปเป็นปลายปี 2565 ที่ 19.50 บาท คาดราคาน้ำมันจะปรับลดลงในปี 65 ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรดีขึ้น รัฐบาลเปลี่ยนนโยบายกลับมาขายดีเซล B7 และ B10 แต่ยังควบคุมราคาน้ำมันและ marketing margin นโยบายนี้กระทบผู้ค้าปลีกน้ำมันทุกรายอย่างมาก คาดกำไรไตรมาส 3/64 อยู่ที่ 144 ลบ. ลดลง YoY และ QoQ จากโควิด-19 และ marketing margin ที่ลดลง แนวโน้มไตรมาส 4 อ่อนตัวลงอีกจากการตรึงราคาดีเซล 

ราคาน้ำมันในประเทศแตะเพดานราคา เมื่อวานนี้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้กลับมาขายน้ำมันดีเซล B7 และ B10 ได้อีกครั้ง หลังเริ่มใช้ข้อกำหนดน้ำมันดีเซล B6 เพียงแค่ 10 วัน อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างราคาระหว่างดีเซลแต่ละเกรดจะลดลงจาก 1.5-3.0 บาท/ลิตร เป็น 0.15-0.25 บาท/ลิตร โดยรัฐบาลจะใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลในประเทศให้อยู่ต่ำกว่า 30 บาท/ลิตร และยังคงควบคุม marketing margin น้ำมันดีเซลที่ไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร 

คงมุมมองเดิมที่คาดว่าผลกระทบเชิงลบส่วนใหญ่จากนโยบายของรัฐบาล จะตกกับผู้ประกอบการน้ำมันปลีก เช่น PTG และ OR จาก marketing margin น้ำมันขายปลีกที่ลดลง แต่ไม่มีกำไรสต๊อกน้ำมันมาชดเชย ขณะเดียวกัน การกลับมาขายน้ำมันดีเซล B7 และ B10 จะส่งผลบวกต่อความต้องการใช้ B100 ในประเทศเล็กน้อย (ประมาณ 1%)

ลดประมาณการกำไรสุทธิลง 4-30% ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-66 ลง 30%/5%/4% เป็น 1.2 พันลบ./1.9 พันลบ./2.4 พันลบ. เนื่องจาก 1) ยอดขายที่ลดลงประมาณ 5% ในแต่ละปีจากผลกระทบของโควิด-19 ที่มากกว่าคาดในไตรมาส 3/2564 และการขยายสาขาปั้มน้ำมันที่ลดลงอีก 30 สาขา ในปี 2564 (เหลือแค่ 50 สาขา ในปี 2564 จากแผนเดิมที่ 80-100 สาขา) 2) การปรับลดสมมติฐาน marketing margin น้ำมันขายปลีกปี 2564 ลง 0.15 บาท เป็น 1.7 บาท/ ลิตร จากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลในไตรมาส 4/2564 3)การปรับลดกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปาล์มลง 40 ลบ. จากความต้องการน้ำมันดีเซลที่ ลดลงปีนี้แต่ถูกหักล้างบางส่วนจาก 4) ค่าใช้จ่าย SG&A/ลิตร ในปี 2564 ที่ลดลง 3% เป็น 1.56 บาท/ลิตร จากการดำเนินการตามมาตรการลดค่าใช้จ่ายในปีนี้

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ลดลงอย่างมาก YoY และ QoQ โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ของ PTG จะอยู่มี่ 144 ลบ. (EPS: 0.09 บาท) ลดลง 72% YoY และ 71% QoQ กำไรที่อ่อนตัวลงดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากยอดขายน้ำมันที่ลดลง 10% YoY และ 14%QoQ เป็น 1,109 ล้านลิตร และ 2) GPM ที่อ่อนตัวลงประมาณ 4% YoY QoQ หรือ 0.09 บาท/ลิตร เป็น 2.11 บาท/ลิตร จากแรงกดดันราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและ 3) ค่าใช้จ่าย SG&A/ลิตรที่สูงขึ้นจากฐานยอดขายที่ต่ำลง ดังนั้น กำไรช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้จึงคาดจะอยู่ที่ 1.17 พันลบ. ลดลง 4% YoY และคิดเป็น 94% ของประมาณการทั้งปีล่าสุดของฝ่ายวิจัย 

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ยังคงอ่อนแอ หากมองไปยังไตรมาส 4/2564 คาดว่ากำไรสุทธิของ PTG จะปรับลดลงมาเกือบเท่ากับจุดคุ้มทุนจากผลกระทบของการตรึงราคาน้ามันที่มีต่อ marketing margin น้ำมันขายปลีก จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) marketing margin ของน้ำมันดีเซลในช่วง 20 วันแรกของเดือน ต.ค.ลดลงมากกว่า 75% เหลือเพียง 0.58 บาท/ลิตร แม้ยอดขายของ PTG คาดจะฟื้นตัวขึ้น 12% MoM จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ก็ตาม อย่างไรก็ดี ผู้บริหารคาดว่าการตรึงราคาน้ำมันดีเซลในประเทศจะถูกบังคับใช้ได้ไม่นาน ขณะที่อัตรากำไรและยอดขายน่าจะดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับปีฐานราคาเป้าหมายเป็นปลายปี 2565 ที่ 19.5 บาท คำแนะนำของฝ่ายวิจัย เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่สามารถรอราคาน้ำมันที่คาดว่าจะเข้าสู่แนวโน้มขาลงในปีหน้า ซึ่งจะทำให้แ นวโน้ม marketing margin น้ำมันปลีกดีขึ้น ขณะเดียวกัน คาดว่ายอดขายจะเติบโตเป็นปกติ เพราะไม่น่าจะมีมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่อันเป็นผลจากอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศที่ระดับ 60-70% ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ปลายปี 2565 ที่ 19.5 บาท (จากราคาเป้าหมายกลางปี 2565 ที่ 20.5 บาท) โดยยังคำนวณด้วยวิธี SOTP

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1