ทันหุ้น – ASIAN วางแผนปี 2565 เตรียมอัพกำลังการผลิตอาหารแช่แข็ง และก่อสร้างโรงงานใหม่ในกลุ่มอาหารสัตว์ รวมถึงปรับปรุงคุณภาพการผลิต จากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยกดดันด้านค่าระวางที่ปรับตัวสูง แต่ยังมั่นใจรายได้ปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามเป้า

นางสาววรัญรัชต์  อัสสานุพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยถึง แผนการลงทุนในปี 2565 ว่าบริษัทจะมีการเพิ่มกำลังการผลิต และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ที่จะปรับปรุงการผลิตเเละการเพิ่มกำลังการผลิต นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนก่อสร้าง ออโตเมติก แวร์เฮาส์ แห่งที่ 2 ของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการใช้พื้นที่ในโรงงานที่มีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับงบลงทุน ยังต้องรอการอนุมัติที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนทิศทางในช่วงที่เหลือของปี 2564 คาดว่าจะย่อตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรก 2564 โดยภาพการเติบโตน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา  ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2/2564 จะเป็นช่วงที่มีการเติบโตสูงที่สุด  แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมการเติบโตในปี 2564 น่าจะทำได้ดีกว่าปี 2563 โดยบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 8,827.08 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 818.06 ล้านบาท

คำสั่งซื้อมีต่อเนื่อง

สำหรับคำสั่งซื้อสินค้าในตลาดต่างประเทศปัจจุบัน ถือว่าปรับตัวดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2563 ซึ่งถือว่าความต้องการสินค้ามากกว่ากำลังการผลิต (Capacity) ของบริษัทที่มี ซึ่งทำให้ต้องใช้ระยะเวลารอคอยสินค้าที่นานขึ้น

แต่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ จะเป็นเรื่องของค่าระวางการขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก อาจทำให้ลูกค้าของบริษัทบางรายมีการชะลอการขนส่งสินค้า ก็ยังถือว่าเป็นอุปสรรคสำคัญของการดำเนินงานปีนี้อยู่ สำหรับสินค้าในหมวดของอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ปัญหานี้ถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่า เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นที่สูงกว่า

โดยบริษัทมองว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะยังต้องใช้เวลาในการคลี่คลาย ซึ่งหากสถานการณ์ โควิด-19 ปรับตัวดีขึ้น ในต่างประเทศ สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ณ  ปัจจุบันสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น มีบางประเทศกลับมาเปิดประเทศได้ ก็มองว่าสถานการณ์ยังกลับมาได้ไม่เต็มที่ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

ลุยธุรกิจ Plant-Based

ทางด้าน ธุรกิจ Plant-Based Meat ซึ่งเป็นกลุ่มของอาหารแช่แข็ง ปัจจุบันได้ส่งสินค้าให้ลูกค้าทดลอง (Approve) แล้ว ซึ่งทางลูกค้าได้นำสินค้าล็อตแรกไปเพื่อทำตลาด เพื่อรอดูว่าจะได้รับการตอบรับมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนมากขึ้นในปี 2565

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง ASIAN ว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 3/2564 คาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนรายได้ยังทรงตัวแต่อัตรากำไรเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีการขาดทุน FX ที่บริษัททำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งจะบันทึกในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหาร

โดยมองว่าธุรกิจอาหารพร้อมปรุงไปได้ดี หนุนผลประกอบการ แม้ว่าสถานการณ์ โควิด-19 ในต่างประเทศจะเริ่มคลี่คลาย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้ออาหารลดลง กลับมีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มโดยเฉพาะในส่วนของร้านอาหารที่มียอดขายสินค้าพร้อมปรุงเพิ่มขึ้น หนุนอัตรากำไร รวมถึงคำสั่งซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงที่ยังทรงตัวสูง และอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าในไตรมาสที่ 3/2564 เป็นตัวช่วยหนุนอัตรากำไรให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย คงราคาพื้นฐานปี 2564 ที่ 20.32 บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1