ทันหุ้น –  SFT ชี้เปิดประเทศหนุนการอุปโภคบริโภคคึกคัก แย้มปัจจุบันมีออเดอร์รอส่งมอบเพียบ มั่นใจรายได้ปีนี้มาตามนัดโต 15-20% ฟากโบรกเคาะกำไรไตรมาส 3/64 พุ่ง 45% แตะ 31 ล้านบาท แนะ “ซื้อ” เป้าหมาย 9 บาท

นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจรด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า คาดเปิดประเทศจะสนับสนุนการอุปโภคบริโภคให้คึกคักมากขึ้น อีกทั้งลูกค้าของบริษัท เป็นสินค้าบริโภค คาดจะสั่งซื้อสินค้าเพื่อรองรับการผลิตและจำหน่ายสินค้าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีนี้ เพราะลูกค้าจะออกแคมเปญเพื่อขายสินค้าในช่วงท้ายปี

** ตุนออเดอร์ล่วงหน้า

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ หรือการเปิดประเทศ บริษัทยังสามารถเติบโตได้ โดยจะเห็นจากผลประกอบการ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงไตรมาส 3 บริษัทสามารถเติบโตได้ โดยส่วนหนึ่งลูกค้ามีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ล่วงหน้า 3-6 เดือน ปัจจุบันภาพออเดอร์ยังเป็นไปตามลักษณะเดิม ทั้งนี้หากสามารถเปิดประเทศ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศได้จริง บริษัทเห็นแต่สัญญาณเชิงบวก

ส่วนทิศทางธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมองภาพเป็นบวก เพราะยังมีออเดอร์ในมือที่รอส่งมอบอยู่จำนวนมาก ขณะที่ภาพรวมในปีนี้ บริษัทมั่นใจรายได้จะเติบโตได้ตามเป้า หรือเติบโต 15-20% จากปีก่อน 678.18 ล้านบาท โดย 6 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 413.48 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 65.60 ล้านบาท

ขณะเดียวกันปี 2565 คาดว่ารายได้จะเติบโต 15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถเติบโตได้ จากการเปิดประเทศ และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว พร้อมกันนี้บริษัทติดตั้งเครื่องจักรไลน์ที่ 5 แล้วช่วงปลายไตรมาส 2/2564 และมีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 70% ส่วนกำลังผลิตที่เหลือ บริษัทพร้อมจะรับออเดอร์ที่มีเข้ามา และรองรับการเติบโตในปี 2565

** ให้พิกัด 9 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ประเมินทิศทาง บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT ว่า แนวโน้มในไตรมาส 3/2564ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จาก COVID-19แต่โตดีต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท อิง 2022E PER 27.5x เทียบเท่า +0.5SD Above 7-Yr Average PER ของกลุ่ม Packaging

ทางฝ่ายประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 ของ SFT อยู่ที่ 31 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่อง +45% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่ปรับตัวลง -16% จากไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิที่เติบโตจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนหนุนโดย 1. คำสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้น และการเริ่มดำเนินการสายการผลิตใหม่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 2. GPM ปรับตัวดีขึ้น เป็น 30.3% อานิสงส์จาก Economies of Scale

** เคาะกำไรปีนี้ 131 ล.

และ 3. ต้นทุนทางการเงินลดลงจากการชำระคืน เงินกู้หลัง IPO อย่างไรก็ตามคาดการณ์กำไรสุทธิจะชะลอตัว และลดลงจากไตรมาสก่อนหน้ากดดันโดยการระบาด COVID-19ระลอกใหม่ ส่งผลให้ลูกค้ามีการเลื่อนคำสั่งซื้อบางส่วน, ปัจจัยทางฤดูกาล, และ SG&A/Sale ที่สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายมาตรการ COVID-19 และการเริ่มสายการผลิตใหม่เต็มไตรมาส

ทั้งนี้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 และ 2565 ที่ 131 ล้านบาท 144 ล้านบาท (+67% และ +10% ) โดยคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 จะกลับมาโต หนุนโดยสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลายขึ้นและสายการผลิตใหม่ที่ Ramp Up ต่อเนื่อง

มองว่าหุ้น SFT มีโอกาสสูงที่จะกลับมา Outperform จาก 1. แนวโน้มกำไรสุทธิที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง +36% และ 2. มีโอกาสเห็น Upside เพิ่มเติมจากการขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น Flexible Packaging

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1