ทันหุ้น - SINGER ไม่ทำให้ผิดหวัง อวดงบสวย Q3/64 กำไรอยู่ที่ 165 ล้านบาท เติบโต 41.0% รายได้รวมอยู่ที่ 914 ล้านบาท โต 8.3% ดันงวด 9 เดือน กำไรอยู่ที่ 488 ล้านบาท พุ่งขึ้น 53% จากภาพรวมขยายพอร์ตสำเร็จ สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเชิงพาณิชย์เติบโต ด้วยการบริหาร Product Mix ได้มีประสิทธิภาพ ส่วนธุรกิจสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) หนุนฐานกำไรที่ดีขึ้น ผลักดันพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 9,673 ล้านบาท คาดปิดสิ้นปีทำผลงานทะลุเป้า คุม NPL ในระดับต่ำต่อเนื่องอยู่ที่ 3.7% ส่วนเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนของ U City จะเข้ามาในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมขยายวงเงินหุ้นกู้ และดัน SGC เข้าตลท. ปี 65 เสริมศักยภาพในการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ฟากโบรกฯ มอง Q3/64 ขยายตัวต่อเนื่อง, ปี 65 เริ่มรับ synergy จากกลุ่ม BTS แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย 47 บาท

นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดประจำไตรมาส 3/2564 (กรกฎาคม - กันยายน 2564) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.3 % สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเชิงพาณิชย์ ได้แก่ กลุ่มเครื่องซักผ้า กลุ่มตู้แช่ เครื่องหยอดเหรียญอัตโนมัติ เป็นต้น โดยเป็นการมุ่งเน้นการบริหารจัดการพอร์ตสินค้า (Product Mix) ให้ดีต่อเนื่อง รวมถึง พอร์ตสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) ที่เติบโตโดดเด่น และเป็นไปตามเป้าหมาย มีลูกค้ารายใหม่ๆ ในกลุ่มผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น แม้ในช่วงไตรมาส 3/2564 เป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาด แต่ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการที่ดี 

สนับสนุนผลประกอบการงวดประจำ 9 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม - กันยายน 2564) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.1 % มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 48.5% อัตรากำไรสุทธิ ที่ 15.9% สำหรับภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องที่ 3.7 % 

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านสาขาและแฟรนไชส์รวมกว่า 2,684 แห่ง มีพอร์ตสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 9,673 ล้านบาท โดยพอร์ตหลักเป็นพอร์ตสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) 5,293 ล้านบาท ส่วนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire purchase) อยู่ที่ 4,225  ล้านบาท โดยภาพรวมพอร์ตสินเชื่อทำได้ดีกว่าคาด ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ 10,000 ล้านบาท จึงคาดว่าในปีนี้ SINGER จะสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเป้า 

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2564 มองว่าจะเป็นอีกไตรมาสที่ดีของบริษัทฯ และเติบโตกว่าไตรมาส 3/2564 จากการมีพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตขึ้น ซึ่งจะเป็นฐานในการขยายตัวต่อเนื่องในทุกไตรมาส รวมทั้ง การมีทีมขายที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 1,800 ราย จากเป้าหมายสิ้นปีนี้  2,000 ราย เพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า พร้อมด้วยวิสัยทัศน์ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยการขยายช่องทางการบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และการเปิดตัวบริการสินเชื่อที่ตอบโจทย์ฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ เช่น ล่าสุด SINGER ได้เปิดตัวโปรเจ็กต์ CLICK2GOLD บริการผ่อนทองผ่าน LINE เป็นต้น 

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ จัดงานประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และได้รับความเชื่อมั่น ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติแผนการเพิ่มทุน และเพิ่มวงเงินการเสนอขายหุ้นกู้ โดยอนุมัติการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)  และเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจํากัด (Private Placement) ให้แก่ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (U City) ประสบความสำเร็จ คาดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ประมาณ 11,000 ล้านบาท จะเข้ามาในช่วงเดือนธันวาคมนี้ สนับสนุนให้บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมเดินหน้ารุกตลาด ผลักดันพอร์ตสินเชื่อรวมในปี 2565 ให้เติบโตแตะ 15,000 ล้านบาท ด้วยต้นทุนดอกเบี้ยที่ดียิ่งขึ้นมาก 

รวมทั้ง แผนต่อยอดโอกาสทางธุรกิจร่วมกันกับบริษัทในกลุ่ม BTS ได้แก่ การขยายไลน์สินค้าใหม่เข้ามาเสริมพอร์ต เป็นโอกาสการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ แผนการนำบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด มหาชน (SGC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เชื่อจะเป็นการสร้าง New Chapter ใหม่ภายในกลุ่มนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ขณะที่ ในปีนี้คาดรายได้รวมจะเติบโต 25% จากปีก่อน

**โบรกฯ มองผลงานขยายตัวต่อเนื่อง 2564-66

บล.เคทีบีเอสที คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 47.00 บาท อิง 2565 PER ที่ 35x (+3SD above 10-yr average PER) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ Q3/64 ที่ 165 ล้านบาท (+41% YoY, -10% QoQ) ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด โดยกำไรสุทธิเพิ่ม YoY จาก GPM ที่เพิ่มขึ้นเป็น 51%, สินเชื่อที่ขยายตัว +77% YoY โดยเฉพาะสินเชื่อ C4C ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า +102% YoY ทำให้ NPL ปรับตัวลงเป็น 3.7% ขณะที่กำไรสุทธิลดลง QoQ จากยอดขายที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล  

ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 664 ล้านบาท (+50% YoY) และปี 2565 ที่ 1.07 พันล้านบาท (+61% YoY) จากสินเชื่อที่ขยายตัวปีละ +60%/+56% YoY และรายได้จากการขายที่จะเพิ่มขึ้น ตามการขยายสาขา และการ synergy กับกลุ่ม BTS ที่ทำให้บริษัทมีประเภทสินค้าที่จำหน่ายมากขึ้น 

ราคาหุ้น outperform SET +8% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และการเข้ามาควบคุมของ สคบ. อย่างมีนัย ทั้งนี้คงแนะนำ “ซื้อ” จากผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวต่อเนื่องที่ 2564-2566 EPS CAGR +51% รวมทั้งสินเชื่อที่จะขยายตัวสูง โดยเฉพาะปี  2565 ตามความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และสินเชื่อรถบรรทุกที่ได้ผลบวกจากการลงทุน การก่อสร้าง และโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น, ฐาน D/E ที่ปรับตัวลง ทำให้บริษัทมีความสามารถในการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น และได้รับ synergy กับกลุ่ม BTS

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1