ทันหุ้น – IIIประเมินทิศทางไตรมาส 4/2564 ธุรกิจโลจิสติกส์ยังเป็นขาขึ้นงไปจนถึงปี 66 เผยดีมานด์ขนส่ง และค่าระวางที่อยู่ระดับสูงหนุนรายได้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมชูโมเดลธุรกิจใหม่ BU5 กับหน้าที่พัฒนาบริการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงการทำหน้าที่ M&A สร้างการเติบโต พร้อมตั้งเป้าสายงานใหม่สร้างรายได้ ไม่ต่ำกว่า 50% ของผลประกอบการรวม

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 ยังเติบโตต่อเนื่องทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท ได้เเก่ ธุรกิจการขนส่งทางอากาศ ธุรกิจการขนส่งทางเรือ ธุรกิจทางด้านบริหารจัดการโลจิสติกส์ และธุรกิจบริหารจัดการสินค้าเคมีภัณฑ์เเละสินค้าอันตราย จากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาซึ่งผลประกอบการได้เติบโตทะลุ 100% ส่วนค่าระวางก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ทั้งทางเรือและอากาศ ซึ่งจะอยู่ในระดับนี้ไปจนถึงกลางปี 2565

ปี 65 รายได้โตต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในปี 2565 มีโอกาสเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และคาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขนส่งทางอากาศที่เริ่มมีวอลุ่มเพิ่มมากขึ้นจากปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศที่จะทยอยเข้ามาหลังจากนี้ นอกจากนี้บริษัทจะเริ่มให้บริการขนส่งทางรางภายในไตรมาสแรกปี 2565 ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนรายได้ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงบริษัทยังมีผลกำไรจากการลงทุนร่วมกับพันธมิตรก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่ามีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง อาทิ ShipSmile ผู้ประกอบธุรกิจขายแฟรนไชส์ให้ผู้ประกอบการในการขนส่งพัสดุ โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสาขา จากกว่า 4,000 สาขา เป็น 10,000 สาขาภายในปี 2565 พร้อมเพิ่มความหลากหลายของบริการ ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส รับจองตั๋ว รับชำระค่าบริการ เป็นต้น

โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับยุทธศาสตร์ให้บริษทเป็น Operating Holding เต็มรูปแบบ ตั้งแต่ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้บริษัทมีผลประกอบการหลักมาจาก 2 ส่วนคือ ส่วนแรกจาก 4 กลุ่มธุรกิจหลักในปัจจุบัน และจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจใหม่ที่ยังสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี

ชูกลุ่มธุรกิจBU5

โดยบริษัทได้ตั้ง กลุ่มธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ Business Development Unit (BU5) รองรับเทรนด์ของตลาดที่เปลี่ยนไป ทั้งในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภค และบทบาทของเทคโนโลยีที่จะสามารถเข้ามาสนับสนุนธุรกิจมากขึ้น โดยโมเดลธุรกิจจะครอบคลุมทั้งการพัฒนาบริการใหม่ๆ การควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการร่วมลงทุน โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2566 จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างสัดส่วนรายได้ไม่ต่ำกว่า 50% ของผลประกอบการรวม ซึ่งในอนาคตจะเป็นแหล่งรายได้ระยะยาวของบริษัท

ปัจจุบันมีโครงการภายใต้ BU5 ดังนี้ การตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ผู้นำด้านการเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในระดับภูมิภาคกว่า 20 สายการบิน และปี 2565 จะเห็นการเติบโตอีกมาก ซึ่งจากการที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ANI) ต่อจากนี้ บริษัทจะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนใน ANI เพิ่มเติม เป็นเงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งทุนสำหรับการเข้าซื้อกิจการกลุ่มบริษัท เอเชีย จีเอสเอ (เอ็ม) เซินดิเรียน เบอร์ฮัด (ASIA GSA (M) Sdn. Bhd. ในสัดส่วน 20% คิดเป็นมูลค่ากว่า 732 ล้านบาท โดยจะรวมศูนย์กลางสำนักงานใหญ่ไว้ที่ประเทศไทย และกระจายจัดตั้งสำนักงานสาขาในอีกกว่า 10 เมืองของภูมิภาคนี้ อาทิ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา โดยมุ่งเน้นเมืองที่เป็นเส้นทางการบินหลัก และเป็นฐานการกระจายสินค้าในระดับนานาชาติ ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำ ANI เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Asia GSA (M) ในปี 2565

รวมถึงการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ภายในประเทศสำหรับกลุ่มลูกค้าอี-คอมเมิร์ซ เพื่อรองรับการเติบโตทั้งแบบ B2B, B2C และการให้บริการคลังสินค้า (Fulfillment) วางเป้าหมายขยายจากฐานลูกค้ากลุ่ม B2B ไปในกลุ่ม B2C โดยจะมีการลงทุนผ่านสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็น Delivery Logistics ซึ่งเติบโตตามธุรกิจจัดส่งสินค้าและอีคอมเมิร์ซ

เดินหน้าพัฒนา E-Logistics Platform เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ขยายสู่การให้บริการแบบครบวงจรแก่ลูกค้าทั้งกลุ่มผู้นำเข้าสินค้าและผู้ขายสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่การให้บริการคลังสินค้าที่มีอยู่แล้ว ไปจนถึงบริการด้าน Digital Marketing Agency โดยผนึกกับพันธมิตรที่ชำนาญด้านการตลาดดิจิทัล และบริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิให้กับสินค้ากลุ่มอาหาร ยาและเวชภัณฑ์ เป็นการต่อยอดความชำนาญและจุดแข็งในธุรกิจบริการจัดส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของบริษัท