เอไอเอสู่บทบาทดูแลสุขภาพ มากกว่าประกันชูไวทัลลิตี้พลัส

ทันหุ้น- เอไอเอ ปรับกลยุทธ์ดูแลลูกค้า ในวันที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ดันโปรเจกต์ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้ พลัส” ชูความเป็นหุ้นส่วนในสิทธิประโยชน์จากบริษัท ทั้งการรับสิทธิลดเบี้ยสูงสุด 25% การรับคะแนนแลกส่วนลดในกิจกรรมต่างๆ ทางด้านผู้บริหารเผยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่พัฒนาทำให้ธุรกิจประกันชีวิตต้องปรับตัวให้ทันไม่เพียงเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง ยังต้องมุ่งสร้างสุขภาพที่ดีให้สมาชิกด้วย

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 นับเป็นจังหวะ ของการยกระดับ และปรับเปลี่ยนโครงการสุขภาพภายใต้ชื่อ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ภายใต้มุมมองว่าที่ลูกค้าของเอไอเอ ไม่ใช่แค่ผู้จ่ายเบี้ยให้กับบริษัท หากแต่ยังเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่มีผลประโยชน์ร่วมกับเอไอเอ เช่นสิทธิพิเศษในส่วนลดเบี้ยประกันภัย กิจกรรมท่องเที่ยว ตรวจสุขภาพ รวมถึงการแลกซื้อสินค้าต่างๆ

มุ่งตอบโจทย์รายบุคคล

อีกทั้งการพัฒนาของนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ไม่ได้มุ่งแค่การรักษา หากยังมุ่งป้องกันความเสี่ยงของโรคภัยไข้เจ็บตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยวิธีศึกษาข้อมูลพันธุกรรมเฉพาะบุคคล เพื่อหาความเสี่ยงว่าบุคคลนั้นมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคอะไร นำไปสู่กระบวนการดูและ และป้องกันได้ก่อน หรือที่เรียกว่า เวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) ซึ่งจากการพัฒนาของนวัตกรรมดังกล่าวทำให้ เอไอเอ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้แบบรายคนมากยิ่งขึ้น

นายกฤษณ์ กล่าวต่ออีกว่า โครงการเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ประกันสำหรับคนรักสุขภาพ เปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2559 ซึ่งเป็นก้าวแรกของบริษัทเข้ามาสนับสนุนคนไทยได้ดูแลสุขภาพ สร้าง Wellness คือ การมีสุขภาพดีชีวิตยืนยาว ดูแลตัวเองให้ดี ด้วยหลักกินดี นอนดี ขยันออกกำลังกาย โดยทำผ่านกิจกรรมท้าทายต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับคะแนนสำหรับเป็นส่วนลดในบริการ และผลิตภัณฑ์ต่างๆจาก เอไอเอ รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ

เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนให้รักสุขภาพมากขึ้น สะท้อนจากตัวเลขสถิติต่างๆ ที่รายงานผลเข้าสู่ เอไอเอ เช่น เม็ดเงินของสมาชิกที่ใช้สิทธิแลกซื้ออาหารสุขภาพ ระยะทางสะสมของสมาชิกที่วิ่งออกกำลังกาย เป็นต้น ตัวเลขเหล่านี้หากเพิ่งขึ้น ย่อมสะท้อนถึงพฤติกรรมผู้ถือกรมธรรม์ของเอไอเอที่ใส่ใจสุขภาพ

“และเมื่อลูกค้าเอไอเอ ที่เป็นสมาชิกโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ มีสุขภาพดี ย่อมหมายถึงการเคลมที่ลดลง ทำให้เราสามารถนำเสนอผลประโยชน์ส่วนนี้ให้ลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะการลดเบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ฉบับใหม่ และเบี้ยประกันภัยสำหรับการต่ออายุ รวมถึงไลฟ์สไตน์ในการใช้ชีวิต ทั้งอาหารการกิน การท่องเที่ยว หรือดูภาพยนตร์ เป็นต้น ”

นายกฤษณ์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้การดูแลสมาชิกของ โครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ดียิ่งขึ้น สามารถตอบโจทบ์เฉพาะเจาะจงได้มากยิ่งขึ้น จึงได้เพิ่มระดับโครงการดังกล่าวสู่ แพลทินัม (Platinum) ภายใต้ชื่อ โครงการ “เอไอเอ ไวทัลลิตี้ พลัส (AIA Vitality Plus)” พร้อมให้สมาชิกได้พลัสสุขภาพดีรอบด้าน

เอไอเอ ไวทัลลิตี้ พลัสให้มากขึ้น

นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า เอไอเอ ไวทัลลิตี้ พลัส เป็นโครงการที่เอไอเอตั้งใจพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตของสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ซึ่งมีค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับเข้าร่วมโครงการปีละ 1,400 บาท เพื่อรับสิทธิประโยชน์และการมีส่วนร่วมกับโครงการที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 

  โดยสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ พลัส จะได้พลัสความพิเศษต่างๆ อาทิ พลัสรางวัลแอคทีฟ รีวอร์ดจากแบรนด์ชั้นนำ ส่วนลดค่าสมาชิกฟิตเนสและเงินคืนค่าธรรมเนียมสมาชิกตามสถานะไวทัลลิตี้ สูงสุด 50% ส่วนลดค่าเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาที่ร่วมรายการ สูงสุด 25% ส่วนลดค่าอาหารเพื่อสุขภาพที่ร่วมรายการ สูงสุด 15% ส่วนลดโรงแรม ที่พัก สูงสุด 25% ส่วนลดเบี้ยประกันภัย สูงสุด 25% เงินคืนจากการตรวจสุขภาพตามสถานะไวทัลลิตี้ สูงสุด 1,200 บาท และรางวัลสถานะแพลทินัม 800 บาท

“สิทธิประโยชน์ที่ เราคืนให้ ในระดับ แพลทินัมนั้น มูลค่าราว 24,636 บาท ซึ่งมากกว่าค่าสมาชิก 1,400 บาท นอกจากนี้ยังเพิ่มแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการไปถึงแบบประกันชีวิตควบการลงทุน หรือยูนิต ลิงค์ โดยผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อแบบประกันเอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ควบคู่กับสัญญาเพิ่มเติมสุขภาและสามารถได้รับสิทธิเป็นสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ทันที”