> SET > CHG

11 มกราคม 2022 เวลา 08:45 น.

CHGตรวจโควิดสูงขึ้น บุ๊กรายได้รับบริหารรพ.

ทันหุ้น - CHG เตือนอย่าวางใจโควิดชี้มีความไม่แน่นอนโควิดกลายพันธุ์สูง เร่งพร้อมพื้นที่รองรับ ชี้ตรวจ RT-PCR เพิ่มขึ้น มองผลงานปี 65 เติบโตตัวเลข สองหลัก ปูพรมบุ๊กรายได้บริหารศูนย์หัวใจ 3แห่งเข้าเต็มปี ด้านโบรกชอบกลยุทธ์ขยายงานแบบไม่ถือครองสินทรัพย์ ได้กำไรเร็ว ไม่มีค่าเสื่อม มองอัตรากำไรสุทธิจะดีขึ้นเมื่อเทียบปี 2563 เป้า 4.40 บาท


พญ.ชุติมา ปิ่นเจริญ กรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในปี 2565มองว่าจะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน เบื้องต้นคาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตแบบตัวเลขสองหลัก ปัจจัยสนับสนุนหลักๆ เป็นผลมาจากความต้องการดูแลรักษาสุขภาพที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการตรวจหาเชื้อโควิด


ทั้งนี้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากไวรัสมีการกลายสายพันธุ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่ายังมีความต้องการรับฉีดวัคซีนต้าน การตรวจ RT-PCR และการรักษาการติดเชื้ออยู่ ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้มีการเตรียมพร้อมพื้นที่รองรับ รวมถึงการจัดหาห้องพักรักษาแบบ Hospitel ให้เพียงพอต่อความต้องการ และด้วยสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนจึงต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแต่เชื่อว่าความรุนแรงอาจไม่หนักเท่าที่ผ่านมา


"ปัจจุบันทางโรงพยาบาลมีเตียงพร้อมรับมือผู้ป่วยที่ยังคงเพียงพอต่อความต้องการ โดยมีอัตราการครองเตียงผู้ป่วยรักษาโควิด-19 อยู่ที่ 50% และอัตราการครองเตียง Hospitel 40% จากทั้งหมด 8,000 เตียง แม้ว่าการแพร่ระบาดจะมีความไม่แน่นอนสูงจากการกลายสายพันธุ์ใหม่ แต่มองว่าความรุนแรงและความเสียหายที่เกิดจากไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่จะเริ่มลดลง และท้ายที่สุดอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่นไป อย่างไรก็ดี หากไม่นับเรื่องการรักษาโควิดเรายังวางเป้าหมายการเติบโตของผลการดำเนินงานไว้ที่ตัวเลข สองหลัก เมื่อเทียบกับปี 2563"พญ.ชุติมา กล่าว


@รับรู้บริหารโรงพยาบาล


นอกจากนี้ ในปี 2565บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจ “Hospital Management Contract” การบริหารโรงพยาบาล โดยเฉพาะศูนย์รับรักษาโรคเฉพาะทาง ปัจจุบันมีโรงพยาบาลภายใต้การบริหาร ได้แก่ 1. โรงพยาบาลพัทยา 2. โรงพยาบาลเกาะล้าน ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มไตรมาส 3. ศูนย์หัวใจสิรินธร เป็นต้น เข้ามาได้เต็มปีเป็นปีแรก รวมถึงผลกำไรจากการเปิดโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และโรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา (RPC) อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง จะมีการขยายเตียงเพื่อรองรับคนไข้เพิ่มเติมในปีนี้อีกด้วย


พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาการให้บริการศูนย์รับรักษาโรคเฉพาะทาง ทั้งสมอง หัวใจ และมะเร็งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้ทางโรงพยาบาลมีความพร้อมอย่างมากทั้งในด้านเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรรองรับการให้บริการ ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับความสนใจให้ไปบริหารงานจากโรงพยาบาลท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ตเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย สะท้อนต่อศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นที่ยอมรับ


@ ส่องเป้าที่ 4.40 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายยังแนะนำเป็น "ซื้อ" สำหรับ CHG ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ใหม่ที่ 4.40 บาท จากเดิม 4.80 บาท โดยยังมีมุมมองบวกต่อ CHG เนื่องจาก 1. คาดว่าในปี 2565ผลการดำเนินงานที่หักรายได้ฉีดวัคซีนออกจะมีกำไรเติบโต 42% จากปี 2563 และเติบโตต่อเนื่อง 19% ในปี 2566มีปัจจัยบวกจากการใช้บริการเพิ่มขึ้นของลูกค้าทั่วไป ประกอบกับการรับบริหารศูนย์หัวใจให้กับ 3 โรงพยาบาล จะช่วยเพิ่มรายได้เต็มปี 2565 เป็นต้นไป


2. รูปแบบการลงทุนแบบไม่ถือครองสินทรัพย์ (Asset Light) ช่วยให้ไม่มีผลกระทบของค่าเสื่อมจากการลงทุน ทางฝ่ายคาดว่าปี 2565-2566 CHG จะมี %EBITDA Margin ราว 28.4% และ 30.1% ตามลำดับ ดีขึ้นมากจาก 26.3% ในปี 2563 รวมทั้งคาดมี เปอร์เซ็นต์ Net Margin เฉลี่ย 19.4% ดีขึ้นจาก 16% ในปี 2563 นอกจากนี้หุ้น CHG ซื้อขาย P/E ปี 2565-2566 เฉลี่ย 27-28 เท่า มองว่าตอบรับกำไรสุทธิผ่านจุดสูงสุดในปี 2564 ไปแล้ว


ขณะเดียวกันมองว่าการยกระดับเตือนสถานการณ์โควิดจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ยังเป็นผลเชิง “บวก” ต่อกลุ่มการแพทย์ เนื่องจาก 1. ในระยะสั้นในไตรมาส 1/2565คาดว่ายอดตรวจเชื้อไวรัสโควิด วิธี RT-PCR จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2564 และ 2. อัตราครองเตียง Hospitel มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามยอดผู้ป่วยใหม่ การระบาดที่กระจายในหลายจังหวัด โดยเฉพาะสมุทรปราการและภาคตะวันออก ซึ่งก็เป็นบวกต่อ CHG เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทางฝ่ายได้สอบถามการให้บริการเกี่ยวกับโควิดช่วงต้น มกราคม 2565 (1-5 ม.ค.65) ของ CHG มียอดตรวจเฉลี่ยต่อวันกว่า 500 คน เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2564 มียอดตรวจเฉลี่ยต่อวันน้อยกว่า 500 คน


ส่วนกรณีภาครัฐอาจกำหนดให้ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดร่วมจ่ายค่ารักษาในสถานพยาบาลทางเลือก เช่น Hospitel มองว่ายังต้องติดตามความชัดเจน ในเบื้องต้นหากรัฐบาลให้ผู้ป่วย COVID ร่วมจ่ายค่ารักษา คาดว่าจะส่งผลต่อการลดลงของจำนวนผู้เข้ารักษาสถานพยาบาลทางเลือก แต่จะเพิ่มค่ารักษาต่อหัว (Pricing) จากรายได้ที่มาจากประกันและ Cash Patient ในระยะสั้นมองว่า CHG จะ Outperform กลุ่มเนื่องจากเป็น รพ.ที่ได้ประโยชน์จากโควิด


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X