ทันหุ้น - SIRI ปักธง 3 ปีผุดโครงการมูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท เป้ายอดขายรวม 120,000 ล้านบาท มองตลาดอสังหาเติบโตปีนี้ 5% ตั้งเป้าเปิดโครงการปีนี้ 5 หมื่นล้าน ยอดขาย-ยอดโอนไว้ที่ 3.5หมื่นล้านบาท ลั่นจากนี้ โครงการต้องมีโซลาร์รูฟ อีวี 100% สูโลกพลังงานสะอาด แนะเว้นภาษีคริปโทบูมตลาดก่อน

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตราว 4.5-5% มากกว่าตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ที่จะเติบโตประมาณ 3%  โดยส่วนภาวะเศรษฐกิจปี 2565 ยังมีปัจจัยเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าราคาแพง, การระบาดโควิด-19 โอไมครอน, หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์หากกระทบกำลังซื้อ และทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง

อย่างไรก็ดีในระยะ 3 ปี ต่อจากนี้บริษัทเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายรวม 120,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายและยอดโอน ไว้ที่ 35,000 ล้านบาท จากในปี 2564 บริษัทมียอดขาย 33,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 29% จากเป้าเดิม 26,000 ล้านบาท และยอดโอน 32,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 21% จากเป้าเดิม 27,000 ล้านบาท

***การแผนปี 65

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2565 ภายใต้วิสัยทัศน์ “STEP BEYOND”  เติบโตยั่งยืนทุกมิติด้วย 3 กุญแจขับเคลื่อนองค์กร PROFIT - PEOPLE - PLANET โดยการมุ่งสร้างรายได้และผลกำไรเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน เเละเตรียมเปิด 46 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ และคอนโดมิเนียม 18 โครงการ

โดยมีสัดส่วนของ Affordable  Segment 50% เพื่อให้แสนสิริเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย โดยมีระดับราคาตั้งแต่ล้านต้นๆ ไปจนถึงระดับไฮเอนด์

ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงได้ ภายใต้แบรนด์คอนโด มี, เดอะ มูฟ, ดีคอนโด, เดอะ ไลน์ พร้อมไฮไลต์ด้วยการรุกคอนโดแบรนด์ “เดอะ เบส” ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท, ทาวน์โฮมราคาเข้าถึงง่าย แบรนด์ สิริ เพลส 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท

บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ “อณาสิริ” ที่ลูกค้าให้การตอบรับสูงในปีที่ผ่านมา เเละเพิ่มแบรนด์ “สราญสิริ” บ้านเดี่ยวริดีไซน์ใหม่ ครองความรวมถึงบ้านเดี่ยวระดับแบรนด์ ”บุราสิริ และเศรษฐสิริ” ต่อเนื่อง รวมทั้งต่อยอดความสำเร็จของ Exclusive Modern Residence แบรนด์ “บูก้าน” และไฮไลต์ที่สำคัญของโครงการแนวราบ ด้วยการกลับมาของบ้านเดี่ยวในระดับ Luxury แบรนด์ “นาราสิริ” 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,300 ล้านบาท

***สภาพคล่องสูง

ในปี 2564 บริษัทได้ปิดการขายโครงการทั้งหมดกว่า 16 โครงการมูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องสูงถึง 15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น

ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ อาทิ โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แม้ปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่แน่นอนเนื่องจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แต่บริษัทมองว่าหากเศรษฐกิจฟื้นตัว ธุรกิจโรงแรมน่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท

รวมถึงช่วงก่อนที่สถานการณ์โควิด-19 บริษัทได้ทำตลาดลูกค้าต่างชาติ โดยในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดก็ยังมีลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาโอนโครงการกับบริษัทอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะถัดไปหากสถานการณ์ดีขึ้นบริษัทก็ได้เตรียมการ ในกรณีที่มีลูกค้าชาวต่างชาติกลับเข้ามา เนื่องจากมองว่าตลาดนี้มีศักยภาพการเติบโตสูง

***แนะเว้นภาษีคริปโท

ด้านการเข้าไปลงทุนในบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XSpring Capital Public Company Limited (XPG) ที่จะเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ ซึ่งมุ่งเน้นในเรื่องการบริการทางการเงินดิจิทัล (Digital Financial Service) นับเป็นเรื่องของโลกอนาคตใหม่ เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเครื่องมือทางด้านการลงทุน ที่ทุกคนเข้าถึงได้ มีความเสมอภาคในการลงทุน บัญชีที่มีการซื้อขายคริปโตฯในปัจจุบัน รวมไปถึง 3 ล้านบัญชีแล้ว รอบปีที่ผ่านมาอย่างน้อยโตขึ้น 2-3 เท่า ส่วนกรณีที่ กรมสรรพากรเริ่มเก็บภาษีกำไรจากการลงทุน (Capital Gain) ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของเมืองไทย ควรมีข้อยกเว้นเหมือนตลาดหุ้น เนื่องจากกฎหมายพื้นฐานให้มีการเก็บภาษี Capital Gain จากหุ้น แต่มีพระราชกฤษฎีกา โดยคณะรัฐมนตรีมีบทเฉพาะกาลยกเว้นมาจนปัจจุบัน ทำให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตมาได้อย่างแข็งแกร่ง

ส่วนปัจจุบันบริการในเรื่องธุรกรรมจากเงินดิจิทัลในการเข้ามาใช้กับโครงการแสนสิริ นั้นมีการรับในส่วนของสกุลหลักๆที่มีการเทรดกัน คือ บิทคอยน์และอีเธอเรียม ส่วนเรื่องการจะขยายไปครอบคุลมเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ นั้น ต้องดูเรื่องของความนิยมและของความน่าเชื่อถือ

***เน้นพลังงานสะอาด

นอกจากนี้บริษัทได้วางเป้าหมายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย ที่วางเป้าหมายเป็น Net-Zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ โดยโครงการแสนสิริต้องใช้พลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้ง Solar Roof ในส่วนกลางของโครงการใหม่ 100% รวมทั้งติดตั้ง Solar Roof ในบ้านทุกหลังของโครงการใหม่ในระดับบน 100% พร้อมไฟในส่วนกลาง – ไฟถนน ต้องเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ 100% โดยจะเริ่มในปีนี้ และจะส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยส่วนกลางของทุกโครงการใหม่ของแสนสิริต้องมี EV Charger 100% เริ่มต้นในปีนี้

รวมทั้งบ้านทุกหลังในโครงการระดับบนโครงการใหม่ของแสนสิริจะต้องมี EV Charger 100% พร้อมการจัดการเรื่อง Waste  Management ทั้งจากการก่อสร้างและในโครงการ นอกจากนี้บ้านโครงการใหม่ของแสนสิริกว่า 70% จะต้องเป็น COOLIVING DESIGNED HOME เพื่อช่วยลดอุณหภูมิให้บ้านเย็น และประหยัดพลังงาน

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1