ทันหุ้น – STEC ยันกอดหุ้น GULF เหนียวแน่น มองโอกาสถือลงทุนระยะยาว  เชื่อมั่นการเติบโต เผยมีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานสัมปทานร่วมกัน ปีนี้มั่นใจรายได้ชน 3.3 หมื่นล้านบาท คาดคว้างานใหม่เพิ่มอีก 4 หมื่นล้านบาท จากแผนการเข้าประมูลงานกว่า 2-3 แสนล้านบาท ดันงานในมือเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ 1.2 แสนล้านบาท

นายภาคภูมิ  ศรีชำนิ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ถือหุ้น GULF ในสัดส่วน 1.88% มีจำนวนหุ้นที่ถือครอง 220 ล้านหุ้น นั้นยังจะคงสถานะการถือหุ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว และยังคงเชื่อมั่นต่อการเติบโตของ GULF โดยที่ผ่านมา GULF ได้ประกาศลงทุนโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง

ขณะที่ในส่วนของบริษัทเองมีโอกาสที่จะรับงานร่วมกัน จากที่ผ่านมามีการเข้าร่วมรับงานร่วมกัน ภายใต้บริษัทร่วมทุน BGSR และคาดว่าอนาคตอาจจะเห็นการรับงานสัมปทานร่วมกันอีก รวมไปถึงการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าของ GULF ด้วย ดังนั้นบริษัทมองว่า GULF จะเป็นพันธมิตรในระยะยาวต่อไป

*ลงทุนหุ้น GULF ระยะยาว

“ตอนนี้ GULF ก็มีการประกาศการลงทุนต่อเนื่อง ทางบริษัทก็ได้ติดตาม อย่างล่าสุดก็มีประกาศที่จะศึกษาและจัดทำแผนพัฒนา Digital Asset Exchange กับ ไบแนนซ์ ซึ่งก็เชื่อว่า GULF จะมีการเติบโตที่ดีในระยะยาว และจะไม่มีการขายหุ้น GULF ออกเพราะเป็นนโยบายที่ต้องการถือลงทุนในระยะยาว และยังมีโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลงานรับงานสัมปทานร่วมกันต่อไป” นายภาคภูมิ กล่าว

ขณะที่ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 33,000 ล้านบาท ซึ่งเกือบจะกลับเข้ามาเท่ากับปี 2562 โดยปีนี้บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลงานต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะเข้าร่วมประมูลงานราว 2-3 แสนล้านบาท อาทิ งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก โครงการก่อสร้างรันเวย์ สนามบินอู่ตะเภา โครงการของกรมทางหลวง ที่เปิดโอกาสให้โครงการให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) เป็นต้น และยังรอผลการประมูลโครงการรถไฟสายส่วนต่อขยายสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) จำนวน 6 สัญญา ที่ได้ยื่นประมูลไปแล้วคาดว่าจะทราบผลการประมูลภายในเดือนมีนาคม โดยบริษัทคาดหวังจะได้ทั้ง 6 สัญญา ทำให้ปีนี้คาดว่าจะได้งานใหม่เพิ่มราว 4 หมื่นล้านบาท จะสนับสนุนงานในมือให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 1.2 แสนล้านบาท

*โอกาสรับงานร่วมกัน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง STEC ว่า นอกเหนือจากความชำนาญและประวัติการรับงานที่ต่อเนื่องของงานประเภทรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย STEC มีจุดเด่นจากความชำนาญในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ขณะที่มีความสัมพันธ์ ที่ดีกับผู้ประกอบการเช่น GULF ซึ่งทำให้มีการรับงานร่วมกันและมีงานที่ได้รับจาก GULF

ขณะที่ได้ประโยชน์จากเงินปันผลรับ ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการลงทุนในบริษัท GULF 1.88% มีจำนวนหุ้นที่ถือครอง 220 ล้านหุ้น ทำให้ได้รับเงินปันผลรับ ซึ่ง GULF มีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ภายใต้นโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30% อีกทั้งการรับงานโรงไฟฟ้าต่อเนื่องจาก GULF ล่าสุดมีงานอยู่ระหว่างทำ Srirachapower  Plant, Pluakdaeng Power Plant ซึ่งกรณี GULF มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มนับเป็นโอกาสต่องานใหม่ของ STEC เช่นกัน

ทั้งนี้คาดแนวโน้มผลประกอบการเริ่มเห็นการฟื้นตัวใน ไตรมาส 4/2564หลังจากมีผลกระทบในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ไตรมาส 2/2564จากโครงการรัฐสภาหมดลง และไตรมาส 3/2564 ผลประกอบการกระทบจาก COVID-19ทำให้มีการปิดแคมป์ คนงานในเดือน 1-1.5 เดือน ทั้งนี้ STEC มีจุดเด่นจากงานในมือสูง และมีงานใหม่ที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา ทำให้งานในมือจะกลับไปอยู่ระดับแสนล้านบาท ในปี 2565 ทั้งนี้ยังมีงานประมูลใหม่จากโครงการภาครัฐทั้งจากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รวมถึง รถไฟทางคู่ ยังคงเป็นโอกาสที่ดีต่อแนวโน้มงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ คาดผลประกอบการในปี 2565 จะพลิกฟื้นทั้งจากรายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นคาดกำไรปกติไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท เติบโต 51%ประกอบกับฐานะทางการเงินที่ยังแข็งแรง เป็น Net Cash Company ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 21.50 บาท (อ้างอิง PBV- 0.50SD ที่ 2.1 เท่า) ปัจจุบันบริษัทซื้อขายในระดับราคา PBV เพียง 1.52X เท่าคิดเป็น PBV -1SD ต่ำสุดจากอดีต ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ประเมินราคาเป้าหมาย 21.50 บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1