#SMPC #ทันหุ้น - SMPC ปักธงปริมาณขายถังแก๊สปี 2565 โต 16% แตะ 8 ล้านใบ ดันรายได้-กำไรเติบโตตามเป้า มั่นใจความต้องการใช้ดีต่อเนื่อง ระบุตลาดสหรัฐ-แอฟริกายอดขายพุ่ง รับราคาเหล็ก-ค่าขนส่งทรงตัว เดินหน้าคุมต้นทุน เน้นขายถังแก๊สไฮมาร์จิ้น มั่นใจอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ 24% โบรกชูหุ้นปันผลสูงยิลด์ 6%

นายสุรศักดิ์  เอิบสิริสุข  ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 2565 ปริมาณขายถังแก๊สจะเติบโต 16% หรือทำได้ราว 8 ล้านใบ จากปีก่อนที่ 6.9 ล้านใบ โดยปีนี้ความต้องการความต้องการถังแก๊สดีต่อเนื่อง ทั้งถังขนาดใหญ่และถังขนาดเล็ก โดยถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ยังมีแนวโน้มความต้องการใช้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ปีนี้บริษัทจะรุกการขยายตลาดถังแก๊สขนาดใหญ่ขนาด 200 ลิตร เพราะยังมีโอกาสทั้งในตลาดสหรัฐ ตะวันออกกลาง ในเอเชีย อย่างเกาหลี เป็นต้นไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่ แต่มีการปรับปรุงสายการผลิต และเพิ่มกำลังการผลิตถังปริมาตรกว่า 200 ลิตร ซึ่งไม่ได้เป็นตัวเลขที่สูงมากนัก

*ยอดขายตามเป้า

“ปีนี้ปริมาณขายถังแก๊สยังเติบโตได้ดี ความต้องการยังดีต่อเนื่อง LPGที่จะเข้ามาหนุนตลาดต่างประเทศยังมีแนวโน้มเติบโต อย่างหสรัฐอเมริกาเหนือที่จะเติบโตได้ต่อเนื่อง ตลาดแอฟริกาก็ยังมีแนวโน้มการเติบโต ส่วนตลาดเอเชียก็มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าปีนี้รายได้จะเติบโตตามปริมาณขาย ส่วนกำไรคาดว่าจะมีทิศทางดีกว่าปีก่อน ซึ่งเห็นได้จากช่วงไตรมาส 1/2565 ปริมาณขายคาดว่าจะทำได้ตามเป้าปัจจุบันก็มีมีงานในมือ (Backlog) ถึงปลายไตรมาส 2/2565 แล้ว” นายสุรศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ราคาเหล็กและค่าขนส่งมีแนวโน้มทรงตัว แต่มองว่าลูกค้าส่วนใหญ่ได้ทราบถึงผลกระทบและเข้าใจถึงสถานการณ์แล้ว โดยในส่วนของบริษัทก็พยายามเดินหน้าในการลดต้นทุนต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยลดภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าปีละประมาณ 10% และสนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 23%

*ผลงานปี 65 โตต่อ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SMPC ว่า ในปี 2565 คาดว่าระวางเรือที่ยังทรงตัวในระดับสูงปัจจุบัน น่าจะยังส่งผลต่อกลุ่มลูกค้าที่มีความอ่อนไหวทางด้านราคาของบริษัทอยู่ (อาทิ ประเทศบังกลาเทศ และลูกค้าจากทวีปแอฟริกาใต้ เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 30-35%) เป็นผลให้ประเมินการเติบโตของปริมาณขายในปี 2565 ตามหลักอนุรักษนิยมที่ 7.5 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 8.6% จากปีก่อน ต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัท

ขณะที่การจำหน่ายแบบ FOB คาดว่าตลอดทั้งปี 2565 น่าจะยังทรงตัวในระดับสูง เป็นปัจจัยช่วยชะลอ SG&A/Sales จากปีก่อนหน้าได้บางส่วน ด้านผลประโยชน์ทางภาษี BOI ที่เหลืออยู่ 10-15 ล้านบาท (ใช้ไปในปี 2564 แล้ว 48.3 ล้านบาท) คาดใช้หมดภายในปี 2565 โดยรวมคาดกำไรปี 2565 เติบโต 1.6% จากช่วงเดียวปีก่อน มาอยู่ที่ 739 ล้านบาท

*แนะซื้อรับปันผล

ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” SMPC มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 16.10 บาท มี Upside จากราคาปัจจุบัน 21.1% อิงวิธี Prospective PER โดยใช้กรอบ Valuation ที่ +1.0 SD จากค่ำเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ได้อยู่ที่ 11.60 เท่า และยังคงคาดหวังเงินปันผลได้ปีละ 6% จากราคาปัจจุบัน ล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2564 ที่ 0.47 บาทต่อหุ้น (XD วันที่ 7 เม.ย. 65 และจ่ายเงินวันที่ 29 เม.ย.65) คิดเป็น Dividend Yield ประมาณ 3.5%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1